นนทบุรี คลิป หนุ่มวัย 45 ปี ทุกข์หนัก ยืมรถลูกอาสาส่งเพื่อนไปรบชายแดนไทย-กัมพูชา ถูกนักธุรกิจสาวขับเบนซ์หรูพุ่งชนท้าย ไร้การติดต่อ
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 68 นายอดิศร ทองชุม อายุ 45 ปี ผู้เสียหาย อาชีพรับจ้าง ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับ ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” หลังยืมรถเก๋งไฟฟ้า ยี่ห้อ NETA รุ่น V สีขาว หมายเลขทะเบียน 5 ขจ 2271 กทม. ของลูกสาว เพื่อขับไปส่งเพื่อนขึ้นรถเพื่อไปรบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างทางถูกนักธุรกิจสาวขับเบนซ์หรูพุ่งชนท้าย จนรถไถลไปชนเกาะกลางถนนได้รับความเสียหาย คู่กรณียอมรับว่าดื่มแอลกอฮลล์มา และขอเปลี่ยนคนขับ แต่ตนเองไม่ยอม หลังเกิดเหตุคู่กรณีไม่เคยติดต่อมารับผิดชอบใดๆ ทำให้ตนรู้สึกเครียดมากเนื่องจากรถคันดังกล่าวไม่ใช่รถของตัวเอง และครอบครัวเดือดร้อนไม่มีรถใช้งาน
นายอดิศร กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 68 เวลาประมาณ 02.00 น. บริเวณถนนราชพฤกษ์ (ขาเข้า) ใกล้ปากซอยราชพฤกษ์ 2 พื้นที่สน.ภาษีเจริญ ตนได้ยืมรถเก๋งไฟฟ้าของลูกสาวเพื่อขับไปส่งรุ่นน้องแถวตลาดพลู เนื่องจากรุ่นน้องเป็นทหารจะต้องนั่งรถไปจ.กาญจนบุรี เพื่อไปทำงานแถบชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างนั้นรู้สึกว่ารถถูกชนท้ายทำให้รถไถลไปชนเกาะกลางถนน ตนจึงรีบประคองรถเพราะกลัวจะพลิกคว่ำ หันไปด้านหลังเห็นรถเบนซ์หรูของคู่กรณีจอดอยู่ จึงลงจากรถไปด้วยความโมโหและถามว่าทำไมถึงขับรถแบบนี้ แต่พอตนเห็นคู่กรณีเป็นผู้หญิงจึงพยายามใจเย็นลง จากนั้นได้มีการพูดคุยกันเพื่อให้ขยับรถเข้าข้างทาง เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นทางลงสะพาน (มุ่งหน้ารัชดาฯ) และค่อนข้างมืด กลัวจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
โดยคู่กรณีบอกว่ายินดีรับผิดชอบทั้งหมดแต่ต้องรอเจ้าของรถมาก่อน เพราะรถคันนี้ไม่ใช่รถของคู่กรณีเอง เมื่อเจ้าของรถมาถึงได้มีการขอเปลี่ยนคนขับเนื่องจากดื่มแอลกอฮอล์มา แต่ตนปฏิเสธเพราะกลัวว่าหากเจ้าหน้าที่ประกันภัยรู้ตนจะซวยไปด้วย ตนรู้สึกไม่โอเคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงขอถ่ายรูปบัตรประชาชนคนขับเอาไว้ก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาถึงที่เกิดเหตุ และมีรถพยาบาลมาด้วย คู่กรณีได้อ้างว่าเจ็บหน้าอกและขอไปโรงพยาบาลโดยไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุ ตนจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ประกันภัยของรถคู่กรณี โดยได้แจ้งให้ตนรอสอบปากคำก่อน
จากวันที่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ผ่านไป 10 กว่าวันแล้ว คู่กรณี เจ้าหน้าที่ประกันภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยติดต่อตนมา ตนมีเพียงใบแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น รถคันดังกล่าวเป็นของลูกสาว ซึ่งมีคันเดียวในบ้าน ได้รับความเดือดร้อนไม่มีรถใช้งาน นอกจากนี้ตนยังโดนบีบคั้นจากทางบ้านว่าตนเป็นต้นเหตุให้รถถูกชน และกลัวว่าคู่กรณีจะไม่รับผิดชอบ ตนรู้สึกทุกข์ใจมาก จึงได้ขอเช่ารถจยย.คนรู้จัก เพื่อเดินทางมาร้องทุกข์ วันนี้ตนอยากให้ ดร.แก้ว ช่วยติดตามเรื่องให้ คิดว่าร้อยเวรควรจะเร่งดำเนินการให้เร็วกว่านี้ เพื่อให้ได้รถกลับมาใช้งาน เพราะรถคันดังกล่าวเป็นรถไฟฟ้ากลัวรถจะเสื่อมสมรรถภาพ ต้องรอคิวในการซ่อมแซมค่อนข้างนาน
ก่อนหน้านี้ ตนไปไปโพสต์ร้องขอความช่วยเหลือที่เพจนึง มีคนทักเข้ามาอ้างตัวเป็นนักข่าวจะช่วยเหลือแต่ขอค่าใช้จ่าย 3,000-5,000 บาท ตนจึงปฏิเสธไปเพราะไม่มีเงิน โชคดีได้ทีมงานของ ดร.แก้ว ทักเข้ามาพูดคุยและให้การช่วยเหลือ รู้สึกขอบคุณมากๆ หากไม่มีใครช่วยตนคงหาทางออกไม่เจอ
ด้าน ดร.แก้ว กล่าวว่า ถือว่าเป็นเคสของลูกผู้ชายที่ต้องเสียน้ำตาเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากขับรถเจออุบัติเหตุแต่คู่กรณีไม่เยียวยา ร้อยเวรก็ยังไม่เร่งดำเนินการ ตอนนี้ตนได้ติดต่อกับผู้กำกับ สน.ภาษีเจริญ แล้ว และท่านยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้ ส่วนคู่กรณีก็อยู่ระหว่างรอผลเลือด คาดว่าผู้เสียหายจะสามารถรอฟังข่าวดีได้ภายใน 1-2 วันนี้ ตอนนี้รอแค่ผลจากนิติวิทยาศาสตร์ ไม่มีอะไรยาก อยู่ที่ทางร้อยเวรที่จะดำเนินการให้กับประชาชนผู้เดือดร้อนรวดเร็วแค่ไหน รวมถึงคู่กรณีด้วย ก็อยากให้รีบรับผิดชอบและเยียวยาผู้เสียหายกับเหตุการณ์ที่เปิดขึ้น

หมายเหตุ : เบลอป้ายทะเบียนรถเบนซ์ของคู่กรณีด้วยครับ










