เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567 มีรายงานว่า
คณะกรรมการการเลือกตั้งวุฒิสภาเขตอำเภอสามพรานได้มีประกาศว่าระบุว่า ตามได้ประกาศกำหนดให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอประกาศผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ
อำเภอ สามพราน จังหวัด นครปฐม
เรื่อง บัญชีรายชื่อผู้ใด้รับเลือกระดับอำเภอ
ตามที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศกำหนดให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอในวันที่ 9 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2567นั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28 และมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ประกอบข้อ ด๓ล ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 จึงประกาศบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ ดังต่อไปนี้
กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง อันได้แก่ผู้เคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรืออื่น ๆ
ในทำนองเดียวกันลำดับที่ดดังนี้,พล.ต.ต.มานูญ เชวงเกียรติ,พล.ต.ต.วสันต์ บุญเจริญ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อันได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา ตุลาการ อัยการ ตำรวจผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน ตามลำดับที่ดังนี้ นายรุ่งโรจน์ แก่นสวาท ,พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ สว่างประเสริฐ,นายวิชา เอกอำไพ รายงานข่าวดังกล่าวระบุ
สำหรับขั้นตอนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา มีดังนี้




ขั้นที่ 1
ประกาศให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ภายใน 5 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา มีผลบังคับใช้ กกต.ประกาศ กำหนดวันเลือกระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ
ขั้นที่ 2
การสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา เริ่มรับสมัครไมเกิน 15 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สมาชิกวุฒิสภา มีผลบังคับใช้ และกำหนดวันรับสมัคร 5 – 7 วัน
ขั้นที่ 3
ประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ผู้อำนวยการเลือกระดับอำเภอประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกเป็น สมาชิกวุฒิสภา ภายใน 5 วัน นับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลารับสมัคร
ขั้นที่ 4
การเลือกสมาชิกวุฒิสภา 3 ระดับ การเลือกสมาชิกวุฒิสภา มี 3 ระดับ คือ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ
ขั้นที่ 5
ประกาศผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา เมื่อ กกต. ไดรับรายงานจากผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศแล้ว ให้รอไว้ไม่น้อยกว่า 5 วัน เมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ถ้า กกต. เห็นวาเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ประกาศผลการเลือกในราชกิจจานุเบกษา
ในขั้นที่ 4 การเลือกสมาชิกวุฒิสภามี 3 ระดับด้วยกัน คือ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ซึ่งประกอบด้วยการเลือกกันเองในกลุ่ม และการเลือกแบบไขว้ ดังนี้
ระดับอำเภอ
รอบที่ 1 เลือกกันเองในกลุ่ม เลือกผู้สมัครในกลุ่มเดียวกัน เลือกกันเองในกลุ่มเดียวกันไม่เกิน 2 คน เลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้ผู้ใดเกิน 1 คะแนนไม่ได้ ผู้ได้คะแนนสูงสุด 5 ลำดับแรกเป็นผู้ได้รับเลือกไปสู่รอบที่ 2 ต่อไป (เหลือกลุ่มละ 5 คน)
รอบที่ 2 เลือกแบบไขว้ เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่สายเดียวกัน แบ่งสายไม่เกิน 4 สาย โดยการจับสลากประกอบด้วยจำนวนกลุ่มเท่ากันเลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นในสายเดียวกันกลุ่มละ 1 คน แต่จะเลือกกลุ่มเดียวกันหรือตนเองไม่ได้ผู้ได้คะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรก ของแต่ละกลุ่ม เป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอของกลุ่มนั้น เพื่อไปสู่ระดับจังหวัดต่อไป
ระดับจังหวัด
รอบที่ 1 เลือกกันเองในกลุ่ม เลือกผู้สมัครในกลุ่มเดียวกัน เลือกกันเองในกลุ่มเดียวกันไม่เกิน 2 คน เลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้ผู้ใดเกิน 1 คะแนนไม่ได้ ผู้ได้คะแนนสูงสุด 5 ลำดับแรกเป็นผู้ได้รับเลือกไปสู่รอบที่ 2 ต่อไป (เหลือกลุ่มละ 5 คน)
รอบที่ 2 เลือกแบบไขว้ เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่สายเดียวกัน แบ่งสายไม่เกิน 4 สาย โดยการจับสลากประกอบด้วยจำนวนกลุ่มเท่ากันเลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นในสายเดียวกันกลุ่มละ 1 คน แต่จะเลือกกลุ่มเดียวกันหรือตนเองไม่ได้ผู้ได้คะแนนสูงสุด2 ลำดับแรก ของแต่ละกลุ่ม เป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอของกลุ่มนั้น เพื่อไปสู่ระดับประเทศต่อไป
ระดับประเทศ
รอบที่ 1 เลือกกันเองในกลุ่ม เลือกผู้สมัครในกลุ่มเดียวกัน เลือกกันเองในกลุ่มเดียวกันไม่เกิน 10 คน เลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้ผู้ใดเกิน 1 คะแนนไม่ได้ ผู้ได้คะแนนสูงสุด 40 ลำดับแรกเป็นผู้ได้รับเลือกไปสู่รอบที่ 2 ต่อไป (เหลือกลุ่มละ 40 คน)
รอบที่ 2 เลือกแบบไขว้ เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่สายเดียวกัน แบ่งสายไม่เกิน 4 สาย โดยการจับสลากประกอบด้วยจำนวนกลุ่มเท่ากันเลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นในสายเดียวกันกลุ่มละ 5 คน แต่จะเลือกกลุ่มเดียวกันหรือตนเองไม่ได้ ผู้ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1-10 ของแต่ละกลุ่มเป็นผู้ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา และผู้ได้รับคะแนนลำดับที่ 11-15 อยู่ในบัญชีสำรองของกลุ่มนั้น
สำหรับในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาครั้งนี้ เราจะมีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมทั้งสิ้น 200 คน และมีบัญชีสำรอง จำนวน 100 คน ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
ทั้งนี้ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ect.go.thแอปพลิเคชัน Smart Vote สายด่วน 1444
หรือขอรับคำปรึกษาได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัด