พี่ชายร้อง “ปวีณา” น้องสาวถูกอดีตแฟนหนุ่มผีพนันราดน้ำกรดใส่ ตั้งแต่ศีรษะลงมาเกือบทั่วตัวเป็นแผลลึกระดับ 3 อาการสาหัสอยู่ห้องปลอดเชื้อในรพ. หลังฝ่ายชายพยายามง้อขอคืนดีแต่ไม่สำเร็จ แอบขึ้นมาหลบซ่อนตัวในรถก่อนลงมือก่อเหตุ ตอนนี้คนร้ายยังลอยนวล น้องสาวเหมือนตกนรกทั้งเป็น หวั่นจะย้อนมาทำร้ายซ้ำอีก ครอบครัวต้องอยู่อย่างหวาดผวา ขอช่วยติดตามคดี “ปวีณา” ประสาน ผกก.สภ.บางปะอิน ส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำสาวผู้เสียหายที่โรงพยาบาลเพื่อเร่งออกหมายจับติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว และจะติดตามอาการบาดแผลผู้เสียหายให้การช่วยเหลือในการรักษาแผลระยะยาวให้ดีที่สุด ล่าสุดตำรวจออกหมายจับแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 เม.ย.67 ที่มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี คลองเจ็ด ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายกร (นามสมมุติ) ผู้เป็นพี่ชาย เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า น.ส.ส้ม (นามสมมุติ) น้องสาว อายุ 38 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกนายเบิร์ด อดีตแฟนหนุ่มที่เลิกกันไป 2 เดือนก่อน ใช้น้ำกรดประมาณ 2 ลิตร ราดตั้งแต่ศีรษะลงมาทั่วร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลที่ศีรษะ ลำคอ หน้าอก แผ่นหลัง ตามลำตัวและแขน นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องปลอดเชื้อโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี และได้ย้ายไป รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แล้วหลังเกิดเหตุ ได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วด้วยเกรงว่าน้องสาวกับครอบครัวจะไม่ปลอดภัย จึงมาร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ ติดตามคดี
นายกร ผู้เป็นพี่ชาย กล่าวว่า น้องสาวคบหากับนายเบิร์ดมาประมาณ 2 ปี แรกๆ นายเบิร์ดก็เป็นคนดี ระยะหลังเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินซึ่งคาดว่าจะติดการพนัน และนายเบิร์ดมักจะหาเรื่องทะเลาะกับน้องสาวเป็นประจำช่วงเดือน ก.พ.67 น้องสาวจึงได้บอกเลิกกับนายเบิร์ดแต่นายเบิร์ดก็ยังพยายามตามง้อขอคืนดี ต่อมาตนเห็นข่าวที่นายเบิร์ดไปก่อเหตุขโมยของวัดจนถูกแจ้งความดำเนินคดีเป็นข่าวโด่งดัง ตนจึงบอกน้องสาวให้ระวังตัว น้องสาวก็ต้องหนีไปหลบตามบ้านเพื่อนบ่อยครั้ง
กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 9 เม.ย.67 ระหว่างที่น้องสาวขับรถออกไปกินข้าวกับเพื่อน นายเบิร์ดได้แอบติดตามไปโดยที่น้องสาวไม่รู้ตัว และคาดว่าน้องสาวน่าจะลืมล็อกรถขณะเข้าไปในร้านอาหาร ทำให้นายเบิร์ดแอบเข้าไปหลบซ่อนตัวในรถอยู่ที่เบาะหลัง จนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม น้องสาวได้ขับรถไปส่งเพื่อนที่หอพักเสร็จแล้วกำลังจะขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางจู่ๆ นายเบิร์ดก็โผล่ขึ้นจากเบาะหลังและบังคับให้น้องสาวขับรถมุ่งหน้าไปทางซอยคลองพุทรา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อไปถึงบริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง น้องสาวจึงได้จอดรถและลงมาจากรถ โดยนายเบิร์ดได้ถือแกลลอนลงจากรถเดินตามมาด้วย แต่น้องสาวไม่รู้ว่าในแกลลอนมีอะไร
จากนั้นนายเบิร์ดก็พยายามง้อขอคืนดีแต่น้องสาวไม่ยอมและพยายามจะล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋าเพื่อโทรหาเพื่อนให้มาช่วย จังหวะนั้นน้องสาวไม่ทันระวังตัว นายเบิร์ดได้กระชากผมน้องสาวจากด้านหลังก่อนจะเทน้ำกรดที่อยู่ในแกลลอนประมาณ 2 ลิตร ราดที่ศีรษะลงมาตามลำตัว น้องสาวกรีดร้องด้วยความปวดแสบปวดร้อน และวิ่งเข้าไปหา รปภ.หมู่บ้าน และชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนที่พลเมืองดีจะแจ้งกู้ภัยมารับตัวน้องสาวส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้นนายเบิร์ดได้อาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหลบหนีไป ซึ่งขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้เป็นหลักฐาน
แพทย์ที่ให้การรักษาระบุว่า น้องสาวถูกน้ำกรดผิวหนังเสียหายลึกอยู่ในระดับ 3 และต้องประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลอื่นมาช่วยดูอาการก่อนจะประเมินการรักษา น้องสาวตอนนี้จิตใจย่ำแย่เมื่อเห็นสภาพตัวเองเหมือนตกนรกทั้งเป็น ตนกลัวว่านายเบิร์ดจะย้อนมาทำร้ายน้องสาวซ้ำอีก ทุกวันนี้ครอบครัวอยู่อย่างหวาดผวา ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีเร่งนำตัวนายเบิร์ดมารับโทษตามกฎหมาย
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน ได้รับทราบว่า ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายเบิร์ดแล้ว และกำลังติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
นางปวีณา กล่าว เป็นห่วงสภาพร่างกายและจิตใจน้องส้ม เนื่องจากถูกน้ำกรดราดตั้งแต่ศรีษะลงมา บาดเจ็บสาหัส จำเป็นจะต้องรักษาตัวระยะยาวซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามอาการบาดแผลของผู้เสียหายและจะทำการประสานงาน รพ.ยันฮี ซึ่งทำงานร่วมกับทางมูลนิธิปวีณาฯ มานานวางแผนการรักษาในระยะยาวต่อไป



