นนทบุรีสุดเศร้าญาติรับศพ นายอุทัย วัลลาราช อายุ 74 ปี ทำพิธีรดน้ำศพ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2566เวลา15.00 น. ที่วัดชมภูเวก ศาลา 2 ซ.วัดชมภูเวก 5 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จากกรณีเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 พ.ย. 66 พ.ต.อ.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยาผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ที่เกิดเหตุภายในซอยวัดชมพูเวชซอย 5 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรีบตรวจสอบ ทราบชื่อต่อมาคือนายอุทัย วัลลาราช อายุ 74 ปี ที่อยู่ 52 ซ.วัดชมภูเวก 5 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นอนหงายเสียชีวิต สภาพศพสวมเสื้อสีขาว ใส่กางเกงขาสั้นสีเทา นอนจมกองเลือด พบบาดแผลบริเวณอกข้างซ้าย 1 นัด ถูกยิงด้วยอาวุธปืนออโตเมติกไม่ทราบขนาด ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายสมพงษ์ ชุ่มเพ็งพันธุ์ อายุ 76 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวไว้ได้ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนที่สภ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งในวันนี้ทางลูกและญาติได้รับศพนายอุทัย วัลลาราช อายุ 74 ปีมาทำภิธีรดน้ำศพในความโศกเศร้าของลูกๆและญาติ จากการสอบถาม นาย เกษมสุข ประทีปรัตน์ อายุ 61 ปีเพื่อนบ้านเล่าว่า นายอุทัย วัลลาราช ผู้เสียชีวิต และนายสมพงษ์ ชุ่มเพ็งพันธุ์ มีปากเสียงกัน ตนก็ได้ดันผู้ก่อเหตุเข้าบ้านไปแล้วตนก็คิดว่าจะสงบ ตนก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตอนที่เขาเดินมาตนก็นึกว่าเขาจะคุยกันสรุปไม่คุยกัน ก็งัดปืนขึ้นมายิงกันเลย พอยิงเสร็จตนก็แย่งปืนกับคนที่ยิง เอามือกระแทกรั่วเพื่อเอาปืนออกเพื่อต้องการให้ปืนหลุดจากมือ เรื่องความแค้นคือมันเหมือนฟางเส้นสุดท้าย ที่สะสมกันมานาน 30กว่าปี เขาก็ไม่ได้มีการทะเลาะที่รุนแรง เป็นเรื่องที่ค้างคาใจ ซึ่งตอนนั้นตนแย่งปืนไม่ทันในนัดแรก พอเขาเดินเข้ามาจะยิงแม่อีกตนเลยตัดสินใจกระโดดแย่ง ซึ่งคนยิงก็เป็นญาติห่างๆที่อยู่บ้านติดกัน มีปัญหากันเรื่องสร้างบ้าน ค่าแรง เมื่อ30ปีที่แล้ว ก็เลยไม่กินเส้นกันมาตลอด ซึ่งถ้าปกติภรรยาเขาอยู่จะไม่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นเพราะจะคอยห้าม แต่ด้วยภรรยาของเขาไม่อยู่ไปงานกฐินเลยเกิดการยิงกัน ซึ่งตนเป็นช่างที่รู้จักมาช่วยทาสีประตูบ้านให้กับผู้ตายเพื่อให้เป็นเขตของผู้ตาย แต่ทางผู้ก่อเหตุก็มาทาสีทับเลยทำให้เกิดการไม่พอใจกันและยิงกันในที่สุด ซึ่งจะมีสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 5 คืน สวดอภิธรรมศพคืนนี้เป็นคืนแรกฌาปนกิจศพในวันที่ 28 พ.ย.เวลา17.00 น.