ป.ป.ส. เปิดบ้านต้อนรับ ทูตสิงค์โปร์ เน้นความร่วมมือ R&D ด้านยาเสพติด
พร้อมโชว์วิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ
สำนักงาน ปปส. ดินแดง
เมื่อวันที่ 22 ม.ย.2565 ที่ผ่านมา
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ให้การต้อนรับ Mr. Harry Goh อัครราชทูตและอัครราชทูตที่ปรึกษา Mr. Alexander Lim ที่ปรึกษาทูต (ฝ่ายการเมือง) สถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย และรองศาสตราจารย์ ดร. พรรณชฎา ศิริวรรณบุศย์ ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยา การบริหารงานยุติธรรมและสังคม (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยมหิดล
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ขอบคุณประเทศสิงคโปร์ที่ได้ให้ความร่วมมือ ด้านการควบคุมยาเสพติดกับประเทศไทยเป็นอย่างดีมาโดยตลอด อีกทั้งยังสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดที่สำคัญของภูมิภาค โดยเฉพาะการจัดฝึกอบรมหลักสูตรภาษาอังกฤษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และการมอบเรือลาดตระเวนจำนวน 3 ลำ เพื่อใช้ในการลาดตระเวนป้องปรามและสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามลำน้ำโขง ซึ่งฝ่ายสิงคโปร์ได้แสดงความยินดีและความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายไทยในด้านวิชาการและ การปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ยืนยันเจตนารมณ์ในการสกัดกั้นยาเสพติดจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำไม่ให้ไปยังประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน โดยในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ส. ได้จัดตั้งวิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ (วปส.) (International Narcotics Control College : INCC) ณ หอฝิ่นอุทยานแห่งชาติสามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการพัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้ด้านวิชาการ ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยมุ่งเน้นการศึกษา วิจัยและพัฒนาด้านยาเสพติด การพัฒนาบุคลากรระหว่างประเทศเพื่อรองรับการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาคต่อไป”
“ทางสิงคโปร์สอบถามถึงนโยบายปลดล็อคกัญชาของไทยว่าเป็นอย่างไร และจะควบคุมอย่างไร สำนักงาน ป.ป.ส. ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ของนโยบายการปลดล็อคกัญชา เพื่อจะใช้ในทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย และเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคตโดยควบคุมไม่ให้เด็กเยาวชนใช้ในทางที่ผิด และรัฐบาลไทยกำลังจะมีกฎหมายควบคุมกัญชามาใช้บังคับ คาดว่าจะมีผลสามารถบังคับใช้ได้ใน 3-4 เดือน นี้”