จับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก.,
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น
รอง ผบก.ป.ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ, พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง
รอง.ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร, ร.ต.อ.บุญส่ง บัวอุไร, ร.ต.อ.เชาวลิตร สีดำ
รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์, ร.ต.ท.ไพบูลย์ ชูวงศ์, ร.ต.ต.ปริชาติ แสงฤทธิ์
รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม
- นายอนุพงษ์ อายุ 28 ปี
พร้อมต่างด้าวชาว เมียนมา รวม 15 คน
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน
ผู้ต้องหาที่ 1 “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย
ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
ผู้ต้องหาที่ 2 – 15 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
- รถยนต์ จำนวน 1 คัน
- โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง
- กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก
จับกุม บริเวณ กม.68 ทล.33 ถนนนครหลวง-ภาชี ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทางบริเวณ
อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พบรถยนต์กระบะจำนวน 2 – 3 คัน ขับขี่ติดต่อกันมา โดยสังเกตว่ามีน้ำหนักบรรทุกที่มากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสัญญาณไฟและเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึงบริเวณ กม.68 ทล.33 ถนนนครหลวง-ภาชี ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจสอบ พบนายอนุพงษ์ฯ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว โดยมีผู้ต้องหาที่ 2-15 นั่งโดยสารมาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญผู้ต้องหาทั้งหมด
มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดที่ สถานีตำรวจภูธรภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาที่ 2 – 15 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาและไม่มีหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรภาชี
จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชายเมียนมาให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่บริเวณป่าข้างทางในพื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 14 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้รับค่าจ้าง 15,000 บาท/ครั้ง นอกจากผู้ต้องหาที่ 1 ทราบดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 14 คน ไม่มีหนังสือเดินทางและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง โดยได้กระทำการแบบนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว
ผู้ต้องหาที่ 2 – 15 ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพาเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทางจะมีญาติเป็นคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 20,000-25,000 บาท










