นนทบุรี วงจรปิด กลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน ไล่ฟัน-ยิง เด็ก16 เจ็บสาหัสก่อนเผาจยย.เหลือแต่ซาก
วันนี้(20 ก.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายจำลอง เอี่ยมละออ อายุ 58 ปี อาชีพ วินจยย.รับจ้าง ว่าลูกชายชื่อน้องนนท์ (ขอสงวนชื่อและนามสกลุล) อายุ 16 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน ขี่จยย.กว่า 15 คัน รุมทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดฟัน รวมถึงใช้ปืนยิง 1 นัด เข้าใต้ราวนม บาดเจ็บสาหัส ก่อนเผาจยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น สกู๊ปปี้ สีเทา ทะเบียน กกฉ270 นนทบุรี ที่ใช้ขับวินดำรงชีวิตอยู่ไหม้กลายเป็นเศษเหล็ก ที่เกิดเหตุบริเวณ ด้านหน้า ฝ่ายติดตั้งและปฏิบัติการสื่อสารที่2 ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เหตุเกิดวันที่ 16 ก.ค.66 เวลาประมาณ 03.00 น.
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพวันที่ เวลาประมาณ 02.38 น.วันที่ 16 ก.ค.66 พบกลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน ขี่จยย.ซ้อนท้ายกันมากว่า 15 คัน แล้วมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าแยกไฟแดงกรมชลประทาน ถ.ติวานนท์ โดยจับกลุ่มขับวนเวียนไปมาประมาณ 2-3 รอบ ก่อนกล้องจะตัดมาที่บริเวณทางเข้าหน้ากรมชลพบรถจยย.ขี่ย้อนศรมาคือนายปามผู้บาดเจ็บซ้อนจยย.เพื่อน ถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่นิ้วโป้งเท้าด้านขวาได้รับบาดเจ็บก่อนจะขี่หลบหนีเข้าไปยังโรงพยาบาลกรมชลประทาน ส่วนนายนนท์ผู้บาดเจ็บสาหัสที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คนทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดฟัน รวมถึงถูกยิง 1 นัด ตอนเวลาประมาณ 04.00 น.กล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเสียไม่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้
นายจำลอง กล่าวว่า เวลาประมาณ 03.30 น. วันเกิดเหตุ น้องนนท์ลูกชายมาหาแล้วบอกว่าจะออกข้างนอกไปเอาบัตรประชาชนให้เพื่อนตนไม่ว่าอะไรลูกชายก็ออกไปตามปกติ ต่อมาผ่านไป 1 ชั่วโมง ลูกชายโทรมาหาตนบอกว่าถูกฟันและโดนยิง ด้วยความเป็นพ่อรู้สึกตกใจรีบเดินทางไปโรงพยาบาล ปรากฎว่าเจอลูกชายนอนอยู่บนเตียงหัวปูดบวมช้ำม่วง แขนขาเต็มไปด้วยเลือดทั้งตัว ตอนแรกคิดว่าลูกตนไม่รอดแล้ว แต่หมอก็ได้แจ้งให้ทราบว่าทั้งตัวมีแผลทั้งหมด 10 แผล โรงพยาบาลได้เอ็กซเรย์แล้วว่าถูกยิง 1 นัดมีกระสุนฝังติดอยู่ที่กระดูกซี่โครงใต้ราวนมด้านซ้าย ทำให้รอดหวุดหวิดหากไม่ติดกระดูกกระสุนอาจจะเข้าปอดจนทะลุ วันต่อมาทางหมอได้ส่งตัวลูกชายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลปากเกร็ด2 ให้อดอาหารและก็จะทำการผ่าตัดเอากระสุนออก พบว่ากระสุดที่ฝังอยู่ลูกใหญ่เกือบเท่านิ้วโป้ง การผ่าตัดก็ผ่านไปด้วยดีตอนนี้ลูกชายตนพ้นขีดอันตรายแต่ยังคงต้องนอนรักษาตัวต่อเพราะบาดเจ็บสาหัส
นายจำลอง กล่าวต่ออีกว่า หลังจากลูกชายอาการเริ่มดีขึ้นตนสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับทางลูกชายทราบว่าหลังจากลูกชายให้บัตรประชาชนเพื่อนเสร็จก็เจอกลุ่มคู่อริที่น่าปากทางออก ก่อนจะวนรถจยย.หลับหนีแล้วเสียหลักล้ม ทำให้เพื่อนและลูกชายวิ่งหนีไปคนละทางก่อนผู้ก่อเหตุจะตามตัวเจอลูกชายตนและรุมทำร้ายหลายคนมีการเตะหน้า เอาหมวกกันน็อคฟาดหัว ใช้มีดฟัน จากนั้นใช้อาวุธปืนยิง แล้วลูกชายล้มลงกองไปนอนกับพื้นแล้วทำทีแกล้งตายอยู่ข้างร่องน้ำ เพื่อให้คนร้ายหนีออกไป ผ่านไปไม่นานทางตำรวจสายตรวจก็ได้มาถึงที่เกิดเหตุช่วยผู้บาดเจ็บ แล้วขับตามผู้ก่อเหตุแต่ไม่ทันเกิดอุบัติเหตุรถล้มเสียก่อน กลายเป็นต้องมานอนเตียงรักษาข้างๆลูกชาย ส่วนรถจยย.ที่ลูกชายตนขับมาเป็นรถของตน ถูกกลุ่มคนร้ายเผาไหม้เหลือแต่โครง ซึ่งรถจยย.คันดังกล่าวตนใช้ประกอบอาชีพ ขับวินจยย.อยู่ในทุกวันเป็นเครื่องมือที่ใช้ทำมาหากินอยู่ทุกวัน ถูกกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุแบบนี้แล้วไม่รู้จะหารายได้มาจากไหนต่อ อยากฝากถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุว่า ถ้าตัวเองถูกกระทำลักษณะนี้บ้างจะเป็นยังไง อยากให้ผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานให้ดีอย่าให้ออกมาก่อเหตุพกพาอาวุธในเวลากลางคืน พร้อมฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ด สายตรวจให้ออกตรวจในเวลากลางคืนมากขึ้นจับวัยรุ่นที่ชอบจับกลุ่มในเวลากลางคืน ตรวจยึดอาวุธ เพื่อป้องกันเหตุ รวมถึงให้ชุดสืบสวนสภ.ปากเกร็ดเร่งติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายและชดใช้ค่าเสียหายกับสิ่งที่กระทำลงไป
นายปาม (เพื่อนรุ่นพี่นายนนท์) กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไปกับเพื่อน 7 คน ขี่จยย.ไป 4 คัน เวลาประมาณ 03.00 น. ซึ่งจะไปเดินซื้อของที่ตลาดกรมชลประทานปากเกร็ด แต่ทางพ่อค้าแม่ค้ายังไม่ตั้งร้าน พวกตนจึงขับรถกลับบ้านระหว่างทางเจอกลุ่มวัยรุ่นขี่จยย.เบิ้ลเครื่องประมาณเกือบ 30 คน ปิดล้อมทั้งทางด้านหน้าที่จะมุ่งหน้าเข้าปากเกร็ด และดักอยู่บริเวณหน้าแยกไฟแดงกรมชลประทานด้านหลัง ตนจึงตัดสินใจขี่จยย.ย้อนศรกลับมาเพื่อจะเข้าไปหลับในกรมชลประทาน ส่วนเพื่อนอีก 3 คันก็ต่างแยกย้ายกันหนีไปคนละทาง จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุขี่ตามตนมาและก็ได้ยินเสียงปืน และเสียงระเบิด ตนรู้สึกหนักๆที่เท้าเลยให้เพื่อนขับเข้าไปแอบที่ในโรงพยาบาล กรมชลประทาน พอดูที่ขาถึงรู้ว่าถูกปืนยิงจำนวน 1 นัด ตนไม่รู้จักกลุ่มที่ยิง แต่เคยเห็นใน tiktok เป็นกลุ่มวัยรุ่นแถวกรมชลประทาน หลังถูกยิงรีบเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเสียค่าใช้จ่ายไป 1,700 บาท ระหว่างที่ตนรักษาทางหมอก็ถามถึงบัตรประชาชนเพื่อใช้สิทธิ์ในการรักษา แต่ตนลืมไว้ที่บ้าน จึงโทรบอกน้องในกลุ่มที่มาด้วยกันที่ขับรถหนีตอนแรกให้เอาบัตรประชาชนมาให้ที่โรงพยาบาลกรมชลประทานที่ตนพักรักษาตัวอยู่ หลังจากน้อง2คน ก็คือนนท์กับบอล เป็นคนเอาบัตรประชาชนมาให้ตน และกำลังจะขับรถจยย.กลับบ้าน ปรากฏว่าขับไปเจอกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมที่ใช้ปืนยิงตน รวมตัวกันอยู่ที่หน้าป้อมยามกรมชลทางออก ทางน้องตนทั้งสองตัดสินใจวนรถกลับจะเข้าไปหลบในโรงพยาบาล แต่เสียหลักรถจยย. ล้ม ทำให้นนท์ซึ่งเป็นคนขับ ถูกวัยรุ่นเอามีดฟันตามตัวน้องกว่า 10 แผลและถูกฟันแขนแทบขาด ถูกอาวุธปืนยิงที่หลัง ส่วนอีกคนคือนายบอลที่มาด้วยกันถูกฟันที่มือก่อนกลุ่มวัยรุ่นใช้ระเบิดไฟปาใส่รถจยย.จนเกิดไฟลุกไหม้วอดทั้งคันเหลือแต่ซาก ตอนนี้อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ด ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ตอนนี้รู้สึกไม่ปลอดภัย กลัวกลุ่มวัยรุ่นจะมาก่อเหตุซ้ำอีก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ปากเกร็ด ลงพื้นที่ ตรวจสอบพยานหลักฐาน ในที่เกิดเหตุทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ได้มีการวางกำลังสายตรวจในช่วงเวลากลางคืนเพิ่มมากขึ้นเพื่อป้องกันเหตุ










