“เหยื่อแก๊งซามูไรเมืองฝาง ถูกไล่ฟันบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นเจ้าชายนิทรา ร้องกองปราบฯ ให้ช่วยทำคดี หลังผ่านมา 6 เดือนคดียังไม่คืบ”
เวลา 11.00 น. ที่ 26 ธ.ค.ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายสีละ จะนู ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ปกครองของเด็กชายซึ่งเป็นชนชาติพันธุ์ลาหู่ หรือ มูเซอร์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สถาปน์ ปัญญาพยัคฆ์ สว.สอบสวน กก.4 บก.ป.เพื่อยื่นหนังสือขอให้กองปราบฯ เข้ามาทำคดีแทน เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมทั้งพนักงานสอบสวนก็ดำเนินการล่าช้า จนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายสีละ เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะนั้นด.ช.กิตติศักดิ์ เลาวู อายุ 12 ปี ด.ช.ธวัชชัย จะนู อายุ 12 ปี ด.ช.ธนนรินทร์ เพชรรัตน์อุดม อายุ 12 ปี ด.ช.ศุภณัฐ จะส่วย อายุ 12 ปี ด.ช.ธวัชชัย จะนู อายุ 13 ปี ขับขี่รถจยย.กลับจากเที่ยวงานวัดนันทราม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 7 คน ทราบชื่อเพียงคนเดียวคือนายกฤษณะ (ไม่ทราบนามสกุล) ขับขี่รถจยย.ตามมา 5 คัน ก่อนจะไล่ทำร้ายและใช้เท้าทีบรถจนล้มลง จากนั้นก็ใช้มีดดาบซามูไรไล่ฟันกลุ่มเด็กทั้งหมด โดยมีด.ช.กิตติศักดิ์ที่บาดเจ็บสาหัส เพราะถูกฟันเข้าที่ศรีษะจนเป็นแผลฉกรรจ์ ขณะนี้ยังนอนสลบถึงขั้นเป็นเจ้าชายนิทรา
นายสีละ กล่าวต่อว่า คดีนี้ผ่านมา 6 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทำให้สงสัยอาจเป็นเพราะผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทางพนักงานสอบสวนก็ดำเนินการล่าช้า ดูเหมือนจะไม่เป็นกลางและไม่เป็นธรรม คล้ายกับจะเข้าข้างผู้ต้องหาด้วย เพราะมีการเรียกญาติ ๆ ของเด็กที่ถูกทำร้ายมาเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย เพื่อต้องการให้จบคดีด้วย จึงมอบหมายให้ตนเข้ามาร้องเรียนดังกล่าว
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ร้องไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป







