นนทบุรี นศ.ปี4ร้องทนายดังถูกแฟนหนุ่มนักแสดงทิ้งไร้เยื่อใยหลังมีมือที่สาม
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 68 ที่สำนักงานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี น.ส.พรีม อายุ 23 ปี นักศึกษา ปี 4 คณะบริหารธุรกิจการตลาดดิจิทัล มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง นำหลักฐานต่างๆเข้าร้องเรียนกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ เพื่อขอให้ช่วยเหลือหลังตนเองถูกนักแสดงหนุ่มวัยรุ่นชื่อดัง บอกเลิกแบบไร้เยื่อใย ทั้งๆที่ตนเองดูแลช่วยเหลือทุกอย่าง โดยอยู่กินกับแฟนหนุ่มนักแสดงรายนี้มาถึง 4 ปี แต่จู่ๆก็มีมือที่สาม เข้ามาแทรกทำให้แฟนหนุ่มนักแสดงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จนกระทั่งมาบอกเลิกตน เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจอย่างมากจน ป่วยเป็นโรคแพนิค ต้องไปหาหมอเอายามากิน
น้องพรีม เล่าด้วยเสียงเศร้าว่า ที่ตนออกมาพูดตนไม่ได้ต้องการทำร้ายเขา ไม่ได้ต้องการสร้างปัญหาหรือเกาะกระแสแต่ตนต้องการความยุติธรรมในฐานะคนๆหนึ่งที่เคยทุ่มเทความรักและความหวังดีให้กับนักแสดงแฟนหนุ่มคนนี้ ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา 4 ปี ตนดูแลเขาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่พัก อาหาร การเดินทาง รวมถึงการสนับสนุนเรื่องงานและการเรียน เพราะตนคิดว่าเขาไม่มีใครในกรุงเทพ และตนอยากเป็นที่พึ่งให้กับคนที่เรารัก
ช่วงที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบเต็มที่ ตนทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจไม่เคยคิดว่าต้องมาทวงคืน แต่เหตุการณ์หลังจากเลิกกัน ทั้งการผิดคำพูด การไปคุยกับมือที่สามในเวลาไม่ถึงเดือน
สิ่งที่เสียใจที่สุดคือในระหว่างที่เรายังคบกันอยู่ตนจับได้ว่าเขานอกใจไปยุ่งกับมือที่สาม ซึ่งตอนนั้นทั้งเขาและมือที่สาม ยืนยันกับตนว่าไม่มีอะไรเกินเลย ตนก็เชื่อเลือกยอมถอย เพราะอยากจบทุกอย่างด้วยเพราะความรักที่มีให้เขา แต่ ความจริงที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่แบบที่เขาบอกเลย
เรื่องนี้มันทำให้ตนรู้สึกชัดเจนว่า สิ่งที่เขาทำกับตนทั้งหมดมันผิดคำพูด และเขาไม่ได้ซื่อสัตย์กับตนตั้งแต่แรกแถมบล็อกหนีตนทุกช่องทาง ทำให้รู้สึกว่าตัวเองถูกเอาเปรียบและไม่ได้รับความจริงใจกับเขาที่ผ่านมาทั้งๆที่ตนช่วยเหลือและหวังดีกับเขาทุกอย่าง ตนย้ำเลยว่าของที่เคยให้ด้วยความเสน่หาตนไม่ต้องการเอาคืน แต่สิ่งที่ตนต้องการมีแค่ค่าใช้จ่ายตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งเขาไม่เคยออกค่าใช่จ่ายอะไรเลย รวมถึงเงินที่เขายืมเป็นครั้งคราว ซึ่งเขาเป็นฝ่ายพูดเองว่าจะคืนให้อยากได้อะไรตนก็หามาให้
“ตลอดเวลาที่เกิดเรื่องตนพยายามติดต่อเขา ติดต่อผู้จัดการ ติดต่อคนรอบตัวเขาแต่ก็ถูกบล็อก
หรือเพิกเฉยทั้งหมด ตนเลยต้องออกมาพูดตรงนี้ เพราะไม่มีช่องทางไหนที่เขาพร้อมจะรับผิดชอบหรือคุยกับหนูอย่างลูกผู้ชายเลย ตนไม่ได้ต้องการให้ นักแสดงหนุ่มคนนี้
เสียอนาคตหรือเดือดร้อน แค่อยากให้เขามีความรับผิดชอบในสิ่งที่เคยพูดไว้ และอยากให้สังคมเข้าใจว่าตนไม่ได้สร้างเรื่อง แต่กำลังทวงสิ่งที่เป็นธรรมสำหรับตัวเองเท่านั้น น้องพรัม กล่าว
ขณะที่ ทนายรณรงค์กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนรู้สึกสงสารและเห็นใจแต่ในทางกฎหมายคงเรียกร้องอะไรกับเขาไม่ได้เพราะว่าผู้เสียหายเองให้ไปด้วยความเสน่หาและความรักที่มีต่อนักแสดงหนุ่ม แต่จากการดูเอกสารหลักฐานต่างๆพบว่าการแชทข้อความล่าสุด หนุ่มนักแสดงรายนี้พร้อมรับผิดชอบคืนเงินในส่วนที่ผู้เสียหายเรียกร้อง จึงต้องปล่อยให้ ทางผู้เสียหายไปฟ้องทางแพ่ง แต่ทางที่ดีตนอยากให้อดีตแฟนหนุ่มนักแสดงรายนี้ออกมารับผิดชอบคืนค่าเสียหายในส่วนที่ควรจะคืนให้เขาไปเถอะ ต่างคนจะได้ต่างอยู่เพราะผู้เสียหายเขาก็ตัดใจบอกกับตนแล้วว่าจะไม่ขอกลับเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับนักแสดงหนุ่มรายนี้
อีกแล้ว









