รวบมิจฉาชีพตีสนิทเจ้าของร้านอะไหล่ เล่นละครนานนับปี!
ก่อนหลอกลงทุนเหรียญดิจิทัลมูลค่าความเสียหายพุ่ง 4 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการโดย พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน
รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น, พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ รอง ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.อรรถวิทย์
สุขทัศน์, พ.ต.ท.เอนก บุญตา, พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง รอง ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศิลาพันธุ์ รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.4 บก.ป. นำโดย พ.ต.ต.จิรัฎฐวัฒน์ กิจรุ่งเรืองเดช สว.กก.4 บก.ป.,
ร.ต.อ.ถวิล สายอินต๊ะ รอง สว.กก.4 บก.ป., ด.ต.จิรพันธ์ กันทะยอด, ด.ต.ทนงศักดิ์ ตุ้ยวงศ์ษา, จ.ส.ต.เบนชัย
ชื่นใจ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายภากรฯ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ 527/2568 ลงวันที่
7 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย
แก่ผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 5 ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง
ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.4 บก.ป. โดยชุดจับกุม นำโดย
พ.ต.ต.จิรัฎฐวัฒน์ กิจรุ่งเรืองเดช สว.กก.4 บก.ป. พร้อมพวกฯ ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าว หลังทราบว่าเดินทางมาถึงจุดจับกุม เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ พร้อมแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบโดยชัดแจ้ง ผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาตามกฎหมาย พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา ให้ผู้ต้องหารับทราบ ผู้ต้องหาเข้าใจสิทธิและข้อกล่าวหาที่เจ้าหน้าที่แจ้ง โดยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
พฤติการณ์ก่อนหน้า คดีนี้มีต้นเรื่องที่ถูกหลอกลวงชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อขาย–แลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลและลงทุนเทรดหุ้น โดยผู้ต้องหาหรือกลุ่มมิจฉาชีพ สร้างโปรไฟล์เฟซบุ๊กปลอม
แล้วส่งคำขอเป็นเพื่อนกับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายอะไหล่รถยนต์อยู่ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ
ต่อมา มิจฉาชีพได้ทักแชทพูดคุยและตีสนิทกับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าตนทำงานอยู่ที่
บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทดำเนินการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล จากนั้นได้ขอ ID LINE ของผู้เสียหาย
เพื่อพูดคุยเกี่ยวการร่วมลงทุนซื้อขาย–แลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลและลงทุนเทรดหุ้น
โดยทั้งสองมีการติดต่อสื่อสารผ่านทางเฟซบุ๊กและไลน์เป็นเวลาหลายเดือน (ระหว่างวันที่
16 มิถุนายน 2566 ถึง 4 สิงหาคม 2567) จนผู้เสียหายเกิดความไว้ใจ และผู้ต้องหาหรือกลุ่มมิจฉาชีพ
ได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อขาย–แลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลและลงทุนเทรดหุ้น
โดยอ้างว่ามีกำไรสูงและถอนเงินได้จริง
ในช่วงแรก ผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุนจำนวน 200,000 บาท ซึ่งได้รับเงินคืนพร้อมกำไรเล็กน้อย จึงยิ่งเพิ่มความมั่นใจ และลงทุนต่อเนื่อง โดยโอนเงินไปเข้าบัญชีต่างๆ หลายบัญชี หนึ่งในนั้น
เป็นบัญชีชื่อ นายภากรฯ (ผู้ต้องหาตามหมายจับ)
ต่อมาผู้เสียหายลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ จนรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4,000,000 บาท และไม่สามารถติดต่อกับผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวได้อีก จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจำนวน หลายรายและหลายพื้นที่
จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวนายภากรฯ ผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริงและให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
• เตือนภัย กลโกงที่มักพบ
• อย่าหลงเชื่อคนแปลกหน้าที่ชักชวนลงทุนผ่านเฟซบุ๊ก ไลน์ หรือแอปใดๆ
• อย่าโอนเงินให้บัญชีบุคคล หรือบัญชีที่ไม่ใช่ชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.
• หากมีผู้ขอให้เปิดบัญชีธนาคารให้ใช้หรือรับโอนเงินแทน อย่าทำเด็ดขาด! อาจเข้าข่าย “บัญชีม้า”
มีความผิดทางกฎหมาย
• เตือนภัยบัญชีม้า
ห้ามรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารแล้วนำไปให้ผู้อื่นใช้เด็ดขาด! มีความผิดถึงขั้นจำคุก
ห้ามนำสมุดบัญชีธนาคาร, บัตร ATM พร้อมรหัส, หรือรหัสแอปธนาคารไปให้ผู้อื่นใช้
เขาอาจนำบัญชีของเราไปทำผิดกฎหมาย เช่น หลอกลวงหรือฉ้อโกงผู้อื่น
• ปกป้องตัวเองและครอบครัวจากการเป็น “บัญชีม้า”
ระวัง! อย่าให้ข้อมูลสำคัญตกอยู่ในมือคนผิด! หากไม่แน่ใจ ให้สอบถามเจ้าหน้าที่หรือสายด่วนกองปราบ โทร. 1195 อย่าตกเป็นเหยื่อรายต่อไป ป้องกันก่อนสายเกินไป!
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”









