รวบเดนคุกเสพยาบ้าวิ่งราวแหวนทองหนัก 1 บาท ในห้างฯดัง
เมื่อเวลา11.15น.วันที่7 พ.ย.ขณะที่พ.ต.ท.ชัยณรงค์ รักสนอง สวป.สน.พระโขนง กำลังออกตรวจพื้นที่ ได้รับแจ้งเหตุจากวิทยุผ่านฟ้าว่า เกิดเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ เป็นแหวนทองคำน้ำหนัก1บาท 1วง เหตุเกิดที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ชั้น2 ภายในห้างบิ๊กซี อ่อนนุช แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนสน.พระโขนง
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.ตรีนุช ลาทอง อายุ25ปี ลูกจ้างร้านทองดังกล่าวอยู่ในอาการตื่นตระหนก พร้อมกับให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ช่วงเวลา11:08 น. ได้มีชายรูปร่างผอมสูง หัวโล้นสักทั้งหัวและตัว สวมเสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะ ได้เข้ามาทำทำทีเป็นลูกค้าขอลองสวมแหวนวงนั้นวงนี้ และเมื่อเวลา 11:09 น. คนร้ายได้อาศัยจังหวะทุกคนในร้านเผลอวิ่งราวแหวนทองคำน้ำหนัก1บาทที่ใส่อยู่ในมือหลบหนีออกไปทางชั้น b1 ของห้างบิ๊กซี และได้มีเจ้าหน้าที่ รปภ.ของทางห้างฯได้วิ่งติดตามไป แต่คลาดกันหวุดหวิด
หลังทราบเรื่อง เจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน จึงได้กระจายกำลัง ออกติดตามตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วน จนกระทั่งตามไปถึงร้านค้าทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัสสุขุมวิท 50 ชั้น 2 พบน.ส. สุธาลินี วงษ์อินทร์ ลูกจ้างร้านทองดังกล่าว เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าเวลาประมาณ 11.30 น. ผู้ก่อเหตุ ที่จำภาพจากล้องวงจรปิดของตำรวจ ได้เดินทางมาที่ร้านเพื่อนำแหวนทองคำน้ำหนัก 1 บาทมาขาย แต่ไม่มีบัตรประชาชน จึงไม่สามารถขายได้
กระทั่งเวลา13.20น. พ.ต.ท.ชัยณรงค์ และพ.ต.ท.พิพัฒน์ เทพิน สว.สส.สน.พระโขนงพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ทราบชื่อ นายชานน หรือ ต๊อก เคร่งธรรมกิจ อายุ25 ได้ที่บริเวณปากซอยอ่อนนุช 1/1 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ขณะเดินเท้ากำลังจะกลับบ้านในชุมชนวัดใต้ นำตัวไปสอบสวนที่สน.พระโขนง
จากการสอบสวนนายชานน ให้การ ตนไมมีงานทำ เสพยาบ้าจนมีอาการหลอน ยืมเงินเพื่อนไปซื้อยาบ้ามาเสพจนเป็นหนี้หลายหมื่นบาท ถูกเพื่อนตามทวงทุกวัน จึงตัดสินใจก่อเหตุ หลังจากได้แหวนทองมาแล้ว เอาไปขายที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัส สุขุมวิท 50 ชั้น2 แต่ไม่มีบัตรประชาชน จึงขายไม่ได้ จากนั้นได้เดินทางไปหาเพื่อนรุ่นพี่ชื่อนายสันติ ฮังนนท์ อายุ 52 ปี ที่ใต้สะพานพระข้ามคลองพระโขนง ซึ่งมีบัตรประชาชน ชวนกันนำแหวนทองไปขายที่ร้านทองในตลาดพระโขนง ได้เงินมา57,000บาท แบ่งให้นายสันติไป3,000บาท ที่เหลือตระเวนใช้หนี้จนเงินหมด
เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามเงินคืนมาได้จากคน 2 คน คนแรก 14,000 บาท คนที่ 2 อีก1,500บาท ส่วนเงินที่ยังขาดไปนายชานนให้การวกวน เหมือนคนหลอนยา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามเงินส่วนที่เหลือและร้านที่รับซื้อแหวนทองไว้ แล้วจะได้ออกหมายจับนายสันติในข้อหารับของโจร ส่วนนายชานนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาวิ่งราวทรัพย์ต่อไป

///








