นนทบุรี ต่อข่าว สส.นนทบุรี นำทีมกรมปศุสัตว์บุกช่วย แมวป่วย “หัดแมว” วัดดัง ตายเกลื่อนในเดือนเดียว วัดไข้ ให้น้ำเกลือรักษาเร่งด่วน
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 10 ต.ค. 68 ที่ วัดสมรโกฏิ ถนนรัตนาธิเบศร์ 17 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายสุรพันธ์ ไวยากรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนนทบุรี เขต 1 พรรคประชาชน ได้นำทีมเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์จังหวัดนนทบุรี เดินทางลงพื้นที่นำอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์และยารักษาโรคเข้าช่วยเหลือแมววัดที่กำลังประสบปัญหาโรคระบาด “หัดแมว” หลังมีแมวเสียชีวิตแล้วกว่า 20 ตัวในเวลาไม่ถึงเดือน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสุขภาพแมวในพื้นที่ทั้งหมด และพบว่ามีแมวป่วยอาการสาหัส 1 ตัว จึงรีบให้น้ำเกลือและยารักษาโรค ส่วนแมวตัวอื่น ๆ ได้ทำการตรวจสอบอาการ โดยการวัดไข้ และบันทึกข้อมูลเพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมถึงให้คำแนะนำแก่ผู้ดูแลแมวในการดูแลสุขอนามัยและแยกกรงแมวป่วยออกจากแมวสุขภาพดี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มเติม
นายสุรพันธ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเรื่องจากประชาชนในพื้นที่ รวมถึงทางวัดและสื่อมวลชนในจังหวัดนนทบุรี ตนได้รีบประสานกับกรมปศุสัตว์จังหวัดให้นำทีมลงพื้นที่ทันทีในช่วงเย็น เพื่อประเมินสถานการณ์เบื้องต้นของโรคระบาดในแมววัดกว่า 100 ตัว ตอนนี้ทางกรมปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่เบื้องต้นเพื่อดูสภาพแวดล้อมของแมวทั้งหมด ว่าอยู่กันอย่างไรเพราะจากข่าวทราบว่าแมวป่วยหลายตัว ซึ่งเท่าที่ดูเบื้องต้นแล้ว สภาพแวดล้อมของวัดและผู้ดูแลถือว่ามีจิตอาสาคอยช่วยดูแลแมวอย่างดี มีการแยกกรงแมวที่ป่วยออกจากแมวที่ไม่ป่วยอย่างชัดเจน ทำให้การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ทำได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ก็ตรวจวัดไข้แมว ถ้ามีตัวไหนที่ไข้ขึ้นก็จะให้น้ำเกลือและให้ยารักษาเบื้องต้น ส่วนในระยะยาวพรุ่งนี้จะมีการนัดพูดคุยกับกลุ่มจิตอาสาที่ดูแลแมววัดชุดนี้ เพื่อประสานไปยัง เทศบาลนครนนทบุรี ให้รับทราบอย่างเป็นทางการว่า พื้นที่วัดสมรโกฏิแห่งนี้มีการรับเลี้ยงดูแมวจำนวนมาก ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลนครนนท์ เพื่อให้เทศบาลสามารถเข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือและสนับสนุนในอนาคตได้ต่อเนื่อง
นายสุรพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า ปัญหาแมวถูกนำมาปล่อยวัดไม่ใช่เฉพาะที่วัดสมรโกฏิเท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดนนทบุรี รวมถึงวัดสวนแก้วที่ประสบปัญหาในลักษณะเดียวกันหลายวัดในจังหวัดนนท์มีปัญหาคล้ายกัน คือประชาชนบางส่วนเลี้ยงแมวแล้วไม่ไหวจึงนำมาปล่อยวัด ซึ่งสุดท้ายก็เป็นภาระของวัดและพระที่ต้องดูแล ถ้าเราเลี้ยงได้ เราควรดูแลเขาไปให้สุด ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ควรติดต่อหน่วยงานหรือมูลนิธิที่สามารถช่วยรับไปดูแลได้ อย่าปล่อยวัด เพราะมันคือการผลักภาระให้คนอื่น ทั้งที่เขาก็แบกรับภาระอยู่แล้ว
ด้าน หลวงตาสัมพันธ์ หรือหลวงตาค่อม พระลูกวัดสมรโกฏิ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและซาบซึ้งใจอย่างมากที่กรมปศุสัตว์และทาง สส. เข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เพราะที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลโดยตรง เพราะหลวงตาคนเดียวดูไม่ไหวจริง ๆ ต้องอาศัยญาติโยมและลูกศิษย์ช่วยกันทุกวัน ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้แมวที่ป่วยหาย และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เห็นความสำคัญของชีวิตเล็ก ๆ พวกนี้