บุกจับ 2 กรรมการ บริษัทนำเข้าส่งออกเครื่องยนต์
หลังร่วมกันออกใบกำกับภาษีปลอมมหาศาล ป้อนกลุ่มผู้ค้าของเก่า
สร้างความเสียหายรัฐกว่า 1,200 ล้านบาท”
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผกก.2 บก.ปอศ. , พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.วรรณลพ รัตนวงษ์ สว.กก.2 บก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ มี ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ ฮงสูน รอง สว.กก.2 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ธนาธิป รุ่งสว่าง รอง สว.กก.2 บก.ปอศ., ร.ต.อ.กฤษณะ มะกรูดอินทร์รอง สว.( สอบสวน ) กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.2 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม
1.นายถนอมฯ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ จ.5630/2568 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568
สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถมหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพระนครเหนือ แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ
2.นายสืบสกุลฯ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5631/2568 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568
สถานที่จับกุม หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ตำบลทางเกวียน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 86/13 อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4( 3) แห่งประมวลรัษฎากร”
เนื่องด้วยกองตรวจสอบภาษีกลาง ( ตส ) พร้อมด้วยกองสืบสวนและคดีกรมสรรพากรตรวจพบว่า บริษัทไดเร็ค มาร์เก็ตติ้ง เอ็กซเพรส จำกัด ซึ่งประกอบกิจการนำเข้า ส่งออกจำหน่ายรถยนต์ เครื่องยนต์ เครื่องกลมือ รวมทั้งอะไหล่ ซึ่งได้มีการจดทะเบียนที่ตั้งสำนักงานอยู่ที่ ซอยลาดพร้าว 87 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในช่วงกันยายน 2556 ถึงมกราคม 2558 มีนายสืบสกุลฯ เป็นกรรมการที่มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท และในช่วงสิงหาคม 2560 ถึงปัจจุบัน มีนายถนอมฯ เป็นกรรมการที่มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท ได้มีพฤติการณ์ออกใบกำกับภาษีให้กับกลุ่มผู้ค้าของเก่าจำนวนหลายรายผิดปกติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาษีพบหลักฐานเช่นสำเนาใบกำกับภาษี ใบกำกับภาษีที่ออกโดยบริษัทไดเร็ค มาร์เก็ตติ้ง เอ็กซเพรส จำกัด ให้กับกลุ่มผู้ค้าของเก่า ที่เจ้าหน้าที่พบในขณะเข้าตรวจค้นสถานประกอบการกลุ่มผู้ค้าของเก่าเหล่านั้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2558
พบเอกสารสำเนาใบกำกับภาษี สำหรับเดือนภาษี ตุลาคม 2557 ถึงเดือนสิงหาคม 2558 จำนวน 23 ฉบับ และ ยังพบข้อมูลต้นฉบับใบกำกับภาษีที่บริษัทไดเร็ค มาร์เก็ตติ้ง เอ็กซเพรส จำกัด ออกให้กับกลุ่มบริษัทค้าของเก่า สำหรับเดือนภาษีพฤษภาคม 2559 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2559 อีก จำนวน 656 ฉบับ ซึ่งสรรพพากรประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มพร้อมเบี้ยปรับ รวมเป็นจำนวนเงิน 1,217,604,590.33 บาท
ต่อมาจึงได้ตรวจสอบไปยังบริษัท ไดเร็ค มาร์เก็ตติ้ง เอ็กซเพรส จำกัด โดยทำหนังสือเชิญพบและนำเอกสารมาชี้แจงแต่บริษัทไม่เข้ามาพบและไม่แจ้งเหตุ ขัดข้อง อีกทั้งได้ไปตรวจสอบสถานประกอบการบริษัท มีลักษณะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น พบว่าบริษัทปิด ไม่มีการประกอบกิจการ ไม่มีสินค้า ไม่มีพนักงานทำการหรือบุคคลที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทได้ ซึ่งน่าเชื่อว่าบริษัทไดเร็คฯ น่าจะไม่ได้ประกอบกิจการจริง แต่ได้มีการออกใบกำกับภาษีโดยทุจริตให้กับบริษัทอื่นๆเพื่อนำไปใช้การเครดิตภาษี เป็นการออกใบกำกับภาษีโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2560 สรรพากรได้ทำหนังสือแจ้งให้มาพบเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกอบกิจการ ก็ไม่มาพบเจ้าพนักงาน ไม่มีหลักฐานเอกสารใดมาชี้แจง เชื่อว่าไม่ได้มีการซื้อขายกันจริง ทางสรรพากรจึงขึ้นรายชื่อบริษัทไดเร็คฯ เป็นผู้ประกอบการที่ออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วนกฎหมาย ประเภท “ไม่ต้องสอบยัน”
เจ้าพนักงานกองสืบสวนและคดี กรมสรรพากรจึง ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อดำเนินคดีอาญากับนายนายถนอมฯ กรรมการผู้มีอำนาจ ในฐานะนิติบุคล และ นายสืบสกุลฯ กรรมการผู้มีอำนาจของ บริษัทไดเร็ค มาร์เก็ตติ้ง เอ็กซเพรส จำกัด ในขณะนั้นในฐานะส่วนตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้รวบรวมหลักฐานที่ทางสรรพากรเข้ามาร้องทุกข์ และทำการขอหมายจับต่อศาลอาญาให้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการ2 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ติดตามและสามารถจับกุมตัวนายนายถนอมฯ ตามหมายจับดังกล่าวได้ ที่พื้นที่กรุงเทพฯ และ จับกุมนายสืบสกุลฯ ได้ที่ในพื้นที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)
ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุกป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิด จึงขอประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือน บริษัทห้างร้านหรือผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ เกี่ยวกับการออกเอกสารใบกำกับภาษี และการนำใบกำกับภาษีไปใช้ลดหย่อนภาษี จะต้องมีการซื้อขายกันจริงเท่านั้น เพื่อจะไม่ต้องถูกดำเนินคดี
การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด