นนทบุรี สุดสลด! ร.ต.ท.ถูกไฟฟ้ารั่วช็อตดับต่อหน้าลูกชาย ขณะรับจ้างตัดต้นไม้ในบ้านหรู ครอบครัวผวาไม่ได้รับความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ก.ย. 68 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” ได้รับเรื่องร้องเรียนจากครอบครัว ร.ต.ท.ปราโมทย์ ปาวิชัย อายุ 55 ปี รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์ หลังถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิตระหว่างรับงานเสริมตัดต้นไม้ในบ้านหรูที่กำลังก่อสร้างภายในหมู่บ้านย่านซอยสามัคคี ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด โดยประกอบด้วย นางพรชนก ปาวิชัย อายุ 65 ปี ข้าราชการบำนาญ (ภรรยา), ร.ต.ต.พิเชษฐ์ ปาวิชัย รอง สว.จร.สภ.เมืองนนทบุรี (น้องชาย), นายพชรพล ปาวิชัย อายุ 27 ปี (ลูกชาย) และน.ส.พัชรพร ปาวิชัย อายุ 17 ปี (ลูกสาว) โดยทั้งหมดได้หอบเอกสารเดินทางเข้าร้องเรียนเพื่อขอให้ช่วยติดตามคดี เนื่องจากเห็นว่าการดำเนินการของตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ยังไม่ชัดเจนและคู่กรณีไม่ยอมออกมาเจรจารับผิดชอบ ครอบครัวกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและหวั่น “ตายฟรี”
นายพชรพล (ลูกชายผู้ตาย) เล่าว่า วันเกิดเหตุ 4 ก.ย. 68 ช่วงเช้าตนได้ออกไปทำงานกับคุณพ่อตามที่นิติหมู่บ้านหรูดังกล่าวว่าจ้างให้ไปเปลี่ยนหลอดไฟในหมู่บ้าน หลังจากเสร็จจากการเปลี่ยนหลอดไฟ ช่วงบ่ายทางนิติหมู่บ้านแจ้งว่าให้ไปดูงานต่อมีงานตัดต้นไม้ในบ้านหลังหนึ่งซึ่งกำลังรีโนเวท เมื่อไปถึงพบว่าต้นไม้อยู่ด้านหลังบ้านและมีเสาค้ำแผ่นเมทัลชีทขวางอยู่ คุณพ่อซึ่งตัวใหญ่ต้องเอามือจับเสาที่ค้ำแผ่นเมทัลชีทเพื่อประคองตัว แต่ทันใดนั้นถูกไฟฟ้าช็อตจนล้มลง ตนตกใจรีบเข้าไปดึงมือคุณพ่ออกมาทำให้ถูกไฟดูดไปด้วย จากนั้นตนตั้งสติอีกครั้งจึงใช้เท้าถีบแขนคุณพ่อเพื่อหวังให้กระเด็นออกแต่ไม่สำเร็จ ก่อนจะรีบวิ่งไปตามคนมาช่วย แต่ก็สายเกินไป คุณพ่อเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าลักษณะการติดตั้งที่เห็นในพื้นที่ก่อสร้างนี้ถือว่าผิดมาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้าอย่างชัดเจน ตู้ควบคุมไฟฟ้าถูกติดตั้งในตำแหน่งต่ำเกินไป ใช้เสาชั่วคราวค้ำยันอย่างไม่มั่นคง เสี่ยงต่อการล้มและสัมผัสน้ำหรือความชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่อาจทำให้เกิดไฟรั่วหรือไฟช็อตได้ทันที อีกทั้งสายไฟถูกเดินแบบลอยตัวโดยไม่มีการร้อยท่อหรือรางป้องกัน ทำให้สายไฟสัมผัสกับโครงสร้างที่เป็นโลหะโดยตรง โดยเฉพาะกับแผ่นเมทัลชีทที่กั้นรอบไซต์งาน ซึ่งตัวมันเองเป็นสื่อนำไฟฟ้า
นายพชรพล (ลูกชายผู้ตาย) กล่าวต่ออีกว่า คุณพ่อตนเป็นคนเคร่งเรื่องความปลอดภัยและคอยสอนเสมอ การทำงานครั้งนี้ไม่ใช่ความประมาทส่วนตัว แต่เกิดจากความผิดพลาดของผู้รับเหมา หากเป็นอุบัติเหตุ ครั้งนี้ทำให้สูญเสียเสาหลักของครอบครัวไปอย่างไม่มีวันกลับ จึงอยากให้ดร.แก้ว ช่วยติดตามคดี กลัวคดีล่าช้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้านนางพรชนก (ภรรยาผู้ตาย) กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า วันเกิดเหตุหลังทราบข่าวจากลูกชายว่าสามีถูกไฟฟ้าดูด ตนถึงกับช็อกและเสียใจอย่างหนัก เพราะไม่คิดว่าจะต้องมาสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไปอย่างกะทันหัน สามีเป็นคนขยันมาก หลังเลิกปฏิบัติหน้าที่ราชการในตำแหน่งรองสารวัตรจราจรที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ก็มักจะรับงานเสริมตัดต้นไม้ตามหมู่บ้านต่าง ๆ โดยทำงานนี้มานานกว่า 6 ปีแล้ว เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงและเข้มงวดเรื่องเวลา ไม่เคยทำให้งานราชการกับงานเสริมมาทับซ้อนกัน เพราะจะรับงานเฉพาะนอกเวลาราชการเท่านั้น สามีของตนเป็นหัวหน้าครอบครัวที่แท้จริง ทำงานทั้งงานหลักและงานเสริมเพื่อให้ครอบครัวอยู่กันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทุกครั้งที่ออกไปรับงานตัดต้นไม้ เขาจะคอยย้ำกับลูกชายเสมอให้ทำงานอย่างรอบคอบและปลอดภัย สามีเป็นเหมือนครูสอนลูกในทุกเรื่องของการทำงาน เป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ และไม่เคยประมาท แต่เหตุการณ์ครั้งนี้มันเกิดขึ้นเพราะความประมาทของผู้รับเหมา ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าตรงนั้นมีไฟรั่วไหล สิ่งที่ทำให้ครอบครัวเจ็บปวดยิ่งกว่าการสูญเสียก็คือ คู่กรณีทั้งเจ้าของบ้านและบริษัทผู้รับเหมาไม่เคยติดต่อมาแสดงความรับผิดชอบใด ๆ มีเพียงการส่งพวงหรีดมาให้ในงานศพเท่านั้น ขณะที่นิติหมู่บ้านได้มาพูดคุยและเข้าร่วมงานบ้าง แต่ทางครอบครัวยังคงกังวลว่าคดีนี้อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากขั้นตอนของตำรวจที่ดูไม่รัดกุม มีการพิมพ์สำนวนผิดและแก้ไขหลายครั้งในช่วงที่รับศพ “เรากลัวว่าสามีจะต้องตายฟรี และไม่มีใครออกมารับผิดชอบ” จึงนำเรื่องมาร้องเรียนให้ดร.แก้ว ช่วยติดตามคดี
ด้าน ดร.ปรเมศร์ หรือ “ดร.แก้ว” ผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนเพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าเกิดจากไฟฟ้ารั่วที่ช็อตผู้เสียชีวิตจนเสียชีวิต ตำรวจต้องแสดงให้ครอบครัวเห็นว่ามีการดำเนินการตามกฎหมายทุกขั้นตอนอย่างโปร่งใส และชี้ชัดว่าผู้เกี่ยวข้องรายใดต้องรับผิดชอบ มิฉะนั้นความกังวลของครอบครัวว่าผู้ตายจะต้อง “ตายฟรี” พร้อมย้ำว่าคู่กรณีต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบและเข้าพบครอบครัวโดยเร็ว และตนจะทำการติดตามความคืบหน้าคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ต่อไป
ต่อมาทีมข่าวได้สอบถามความคืบหน้าคดีไปยัง พ.ต.ต.หญิง ทฤฒมน เลิศอาวาส สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้ประสานงานกับเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ โดยเจ้าของบ้านแจ้งว่ามีการทำประกันภัยไว้ และได้แจ้งเรื่องไปยังบริษัทประกันแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการนัดหมายประชุมเพื่อพูดคุยเรื่องการเยียวยากับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยทางตำรวจได้ประสานไปยังบริษัทประกันเพื่อให้เข้ามาที่โรงพักเพื่อนัดหมายหารือร่วมกัน อยู่ระหว่างนัดวันให้ตรงกัน
ในส่วนของการดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงผลตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุ ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำมาประกอบการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ยืนยันว่าการดำเนินคดีจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
อย่างตรงไปตรงมา