ปราจีนบุรี-อดีตผอ.โรงเรียนแต่ง-ร้องเพลงสะท้อนสังคมสดๆเพลง “คดีชั้น 14” หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ให้ทักษิณอดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการบังคับโทษจำคุก 1 ปี ระบุเป็นประวัติศาสตร์ไทย เผยลึก ๆ ตนเองยังประทับใจที่ปราบยาเสพติดเอาชนะได้ แต่ให้แยกแยะความดี ความผิดขอให้เป็นคดีอุทธาหกรณ์สอนนักการเมืองพร้อมแขวะแบบบันเทิงๆ เลิกนักการเมืองดีไหม?
เมื่อเวลา 19.45 น.วันนี้ 10 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้นายทักษิณอดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการบังคับโทษจำคุก 1 ปี ได้พบโพสต์ในYouTube โดยผู้ใช้ชื่อ ผอ.กัน ประจันตคาม Kanpichet Maliket ( นายกันพิเชษฐ์ มลิเกตุ ) ได้แต่งเพลงเอง – ร้องเอง ชื่อเพลง “คดีชั้น 14”
(https://www.youtube.com/watch?v=GBm23e_HN3U ) พร้อมข้อความระบุว่า …เป็นคดีประวัติศาสตร์ที่คนเป็นถึงนายกรัฐมนตรีต้องมาติดคุกคนแรกในประเทศไทย โดยเนื้อหาของเพลง สะท้อนถึงกรณีหลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการบังคับโทษจำคุก 1 ปี สรุปใจความว่า … 9ก.ย.ฟังการตัดสินความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการบังคับโทษจำคุก 1 ปี คดีการเมืองป่วยชั้น 14 ความดีความชั่วแยกกัน จะได้เป็นบรรทัดฐานที่นักการเมืองทุกคนต้องมีทั้งความซื่อสัตย์สุจริตเป็นมิตรไมยตรีประชาชนต้องการคนดีมีวิสัยทัศน์ได้มาตรฐาน พร้อมยกตามภาษิตคำพังเพยว่าไว้ จะดีก็แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย และ หยอกล้อการเมืองไทยว่า ตัดนักการออกไปดีไหมเอาปลัด ผู้ว่าราชการมาบริหารแทนนักการเมือง …
ค่ำนี้ ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปพบ กับนายกันพิเชษฐ์ มลิเกตุ อายุ 62 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนและนักแต่งเพลงสะท้อนสังคมชาว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ที่บ้านพัก หมู่ 3 ต.ประจันตคาม
นายกันพิเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นที่ฮือฮา เมื่อวานนี้ 9 ก.ย. จากศาลศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาตัดสินความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีการเมืองป่วยทิพย์ ที่ชั้น 14 ได้รับการบังคับโทษจำคุก 1 ปี นั้น ตนเองคิดอยู่หลายรอบ จึงได้เขียนเป็นบทเพลงขึ้นมา เนื่องจากทักษิณเป็นอดีตนายก มีภาพทั้งคนมองทั้งภาพบวกและลบ
ในส่วนตัวของตนเอง ยังจำได้ถึงขณะสมัยตนเองช่วงยังเป็นครูผู้สอนและครูฝ่ายปกครอง ช่วงนั้นได้ท่านทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีผลงานได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมากมาย อาทิ การประกาศสงครามยาเสพติด ขณะนั้นยาเสพติดระบาดมากกับเยาวชน โดยเฉพาะกับ นร.ทั้ง ม.ต้น ม.ปลาย ได้มีประกาศสงคราการประกาศเอาชนะสงครามยาเสพติด ทำให้ปรากฏว่าผู้ค้ายาฯหนีหาย ทำให้การค้ายาหมดไปนี้เป็นความดี เป็นความดีที่ตนประทับใจอยู่ นอกจากนี้ยังเรื่องอื่น อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน และ หลายอย่าง ฯลฯ นั่นเป็นความดีเป็นนโยบายของท่านที่คนรู้กันดี ในส่วนภาพลบ ก็มีการว่าท่านทุจริตในโครงการอะไรต่าง ๆมากมาย ดังนั้นเมื่อภาพ 2 ภาพได้ผนวกเข้ากันการแต่งเพลงก็คิดมากพอสมควร เพราะเนื่องจากมีทั้งคนรักและมีทั้งคนชัง
เพลงที่แต่งนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นอุทธาหรณ์สอนใจเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทยเมื่อมีคนเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีต้องติดคุกติดตะราง ดังนั้นก็เป็นอุทธาหรณ์ของนักการเมืองรุ่นต่อ ๆมา จึงได้เขียนแขวะว่า ไม่ต้องให้มีนักการเมืองดีไหม? โดยเอาแค่ปลัดกระทรวงมาบริหารในทุกกระทรวง แล้วก็ให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบริหารระดับภูมิภาคระดับท้องถิ่น แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะประเทศไทยเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และปกครองในระบบรัฐสภาต้องมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นการแต่งเพลงสนุกสนานบันเทิงให้ข้อคิดเท่านั้น
ในส่วนการบริหารบ้านเมืองนั้น ในอีก 4 เดือนก็ยุบสภาฯเลือกตั้งกันใหม่ ขอให้ประชาชนพินิจพิจารณาจะเลือกตั้งอย่างไร ไม่เห็นแก่อามิจสินจ้างเงินทอง ขอฝากทุกท่าน นายกันพิเชษฐ์ กล่าวในที่สุด
### มานิตย์ สนับบุญ / ปราจีนบุรี ###