นนทบุรี “แม่ปูนา” ร้องทนายรัชพล กรณียืมเงินคนดัง CEO แมน
จากกรณีปัญหาเรื่องเงินของ แม่ปูนา เจ้าของเพจดัง ปูนาฟ้าใส พระรามสอง ที่เคยเป็นกระแสมาหลายครั้งก่อนหน้านี้กับหลายคน จนกระทั่งต่อมา CEO แมน คนดัง จากกเต้นท์รถพ้ง ได้เข้ามาช่วยเหลือโดยให้หยิบยืมเงินไปลงทุนต่อเป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท และมีการชดใช้ให้ไปแล้วจำนวน 500,000 บาทยังคงค้างอีก 500,000 บาท จนกระทั่งต่อมา CEO แมน ออกมาให้ข่าวว่า แม่ปูนาเป็นมิจฉาชีพ ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดกรณีพิพาทกัน ซึ่ง CEO แมนยืนยันว่าไม่ได้พูด แต่ถ้าหากสังคมเข้าใจผิดคิดว่าตนเองพูดก็พร้อมรับผิดชอบ ขณะที่แม่ปูนาเองนั้นปฏิเสธที่จะใช้เงินส่วนที่เหลือเนื่องจากหลังจากที่ CEO แมนพูดไปแล้ว ทำให้ยอดขายสินค้าของแม่ปูนาตกฮวบลงทันที ส่วนเรื่องจะใช้หนี้ที่คงค้างนั้นขอปรึกษาทนายก่อน
วันนี้เวลา 10.00 น. วันที่ 10 กันยายน 68 ที่สำนักงานทนายรัชพล ถนนประชาราษฎร์ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี แม่ปูนาพร้อมด้วย นางสาว พิชญานัน ปานทองทนายความ เข้าพบและปรึกษาข้อกฎหมายกับนายรัชพลศิริสาคร ทนายความชื่อดังในกรณีดังกล่าว
โดยนำหลักฐานเอกสารสำคัญต่างๆ พร้อมด้วย Statement ชี้แจงกับทนายรัชพลและสื่อมวลชน พร้อมปฏิเสธเรื่องเงินจาก CEO แมนที่จะยกให้ 5 แสนบาท ตนยืนยันจะชดใช้หนี้ให้ไม่ขอรับในส่วนนี้ และยืนยันว่า หลังจากที่เขาให้ข่าวไปยอดขายของตนตกฮวบทันที เงินส่วนที่เหลือตนจะผ่อนชำระให้จนครบ ไม่ขอรับการช่วยเหลือจาก CEO แมน อย่างแน่นอนเพราะตนเสียหายไปแล้ว ” เดือนนี้ทั้งเดือน ยอดขายของตนพึ่งมี 2 ยอดๆละ 500 กว่าบาทเท่านั้นเอง จากเดิมที่มียอดเดือนละกว่า 1 ล้านบาท หลังจากที่ถูก CEO แมน ออกมาให้ข่าวว่าตนเป็นมิจฉาชีพ ตนขอความเห็นใจจาก FC ของแม่ปูนาช่วยสนับสนุนสินค้าแม่ปูนาเหมือนเดิม “ถ้าเขาไป จ้างคนอื่นทำ Content ใช้เงินไม่ต่ำกว่า 3 ล้านแต่มาทำร่วมกับแม่ปูนาใช้เงินแค่ 1 ล้าน ก็ได้ FC เข้ามาเป็นจำนวนมาก” ตนมองว่าเขาทำแบบนี้มันคุ้มกว่าเยอะเลย
ขณะที่ทนายรัชพล กล่าวว่า วันนี้แม่ปูนามาปรึกษาเพื่อยืนยันว่าจะใช้หนี้ส่วนที่เหลือ 5 แสนบาท ตนจะดูในส่วนของเอกสารที่ทำไว้ทั้งสองฝ่าย ว่าผิดกฎหมาย หรือไม่เนื่องจากแม่ปูนาทำสัญญาไว้ กับ CEO แมน ต้องส่งผลกำไร เดือนละ 250,000 บาท ปีนึงก็ตกหลายล้านบาท เข้าข่ายเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดมีโทษอาญาจำคุก อีกทั้งสัญญาที่ทำไว้ก็ทำไว้กับบุคคอื่นนที่ไม่ใช่ CEO แมน ทางแม่ปูนหาเองก็แจ้งว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูก กระทำในลักษณะเช่นนี้ ก็อยากให้คู่กรณีออกมาชี้แจงและเอาเอกสารสัญญามาเจรจาพูดคุยกัน จะถือเป็นทางออกที่ดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย