รวบหนุ่มหัวใส เปิดบริษัทบังหน้าหลอกติดตั้ง
“เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ” เชิดเงินลูกค้ากว่า 1.5 ล้าน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น
รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.,
พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป.,
พ.ต.ท.อภิมัณฑ์ บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร รอง ผกก.3 บก.ป และ
พ.ต.ท.ศิษฏ์ พูลวงศ์ รอง ผกก.3 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายชยเศรษฐ์ฯ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพัทยา ที่ 87/2568
ลงวันที่ 24 ก.พ.2568 คดีหมายเลขดำที่ อ3706/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อ493/2568 ซึ่งต้องหาว่า
กระทำผิดฐาน “ฉ้อโกง” และหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 262/2568 ลงวันที่ 4 เม.ย.2568 ซึ่งต้อหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
สถานที่จับกุม บ้านเช่าในพื้นที่ ม.2 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำกำลังบุกเข้าจับกุม
นายชยเศรษฐ์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฉ้อโกง หลังจากสืบทราบว่าหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเช่า หมู่ 2
ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
โดยนายชยเศรษฐ์ฯ ถูกระบุว่าเป็นหัวขบวนในขบวนการหลอกลวง ด้วยการเปิดบริษัทรับติดตั้งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ใช้กลยุทธ์ตีสนิทผู้เสียหาย อ้างมีประสบการณ์และสามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะให้ผู้เสียหายวางเงินมัดจำ แต่สุดท้ายกลับไม่ดำเนินการตามที่ตกลงไว้ หนึ่งในเหยื่อรายใหญ่ เป็นผู้ประกอบการในพื้นที่พัทยา ยอมจ่ายเงินมัดจำเครื่อง
จำนวน 300,000 บาท
แต่ต่อมานายชยเศรษฐ์กลับอ้างว่า หากอยากได้เครื่องไวต้องโอนเงินส่วนที่เหลือให้ครบทั้งหมด ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเพิ่มอีก 900,000 บาท รวมยอดความเสียหายรายเดียวสูงถึง 1.2 ล้านบาท แต่ผ่านไปกว่า 6-7 เดือน เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญยังไร้เงา
นอกจากนี้ ยังมีเหยื่อในพื้นที่พิษณุโลก ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน สูญเงินไปอีก 300,000 บาท
รวมมูลค่าความเสียหายจากการกระทำของนายชยเศรษฐ์ฯ กว่า 1.5 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาสืบสวนและติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้อย่างใกล้ชิด ก่อนพบข้อมูลว่า นายชยเศรษฐ์ฯ มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลชื่อ นายสุวัฒน์ฯ หลบหนีไปทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี
ก่อนจะย้อนกลับมาเช่าบ้านหลบซ่อนในจังหวัดสมุทรสาคร
เมื่อเข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่แสดงหมายจับ
แจ้งข้อกล่าวหาให้นายชยเศรษฐ์ฯ ทราบ พร้อมอ่านสิทธิ์ตามกฎหมาย ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำบันทึกจับกุมและส่งดำเนินคดีที่ศาลแขวงพัทยา โดยจะมีการขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการและทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา