นนทบุรี วงจรปิด หนุ่มขนส่งหัวสูง บุกขโมยหมวกกันน็อคราคาแพงกลางดึก เจ้าของโร่แจ้งความดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 68 ทีมข่าวได้รับแจ้งจากนายอนุสรณ์ อนุโยธา อายุ 30 ปี ทำอาชีพรับจ้าง (ผู้เสียหาย) ว่าถูกคนร้ายเข้ามาขโมยหมวกกันน็อค ยี่ห้อ Arai สีดำ ราคาประมาณ 16,000 บาท บนรถจยย.ที่จอดไว้ บริเวณลานจอดรถ SCH แมนชั่น ตรงข้ามซ.ประชาราษฎร์ 5 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เบื้องต้นแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองนนทบุรี
นายอนุสรณ์ (ผู้เสียหาย) กล่าวว่า เหตุเกิดวันที่ 17 เม.ย. เวลาประมาณ 03.54 น. ตนถูกคนร้าย เป็นชายวัยรุ่น รูปร่างผอมสูง อายุประมาณ 18 ปี สวมเสื้อแจ็คเก็ต J&T สีแดง ใส่กางเกงยีนส์ขาสามส่วน สวมรองเท้าแตะ ทำทีเดินเข้ามาบริเวณลานจอดรถของแมนชั่น และเดินออกไป ผ่านไปประมาณ 5 นาที คนร้ายขับขี่รถจยย. (ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น) มาจอดบริเวณใกล้เคียงอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบหมวกกันน็อค ยี่ห้อ Arai ราคา 16,000 บาท ของตนเอง และรีบขับขี่รถจยย.หลบหนีไป ซึ่งแถวนี้ตนได้ยินมาว่าหมวกกันน็อคหายบ่อย แต่ตนเพิ่งจะมาโดนขโมยครั้งนี้ ตอนนี้ตนได้มีการแจ้งความไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่ดูกล้องวงจรปิดอยู่ว่าคนร้ายหลบหนีไปทางไหนบ้าง โดยตนไม่ได้ลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐาน แต่แจ้งความดำเนินคดี เรื่องหมวกกันน็อคตนไม่ได้สนใจว่าจะได้คืนหรือไม่ เพียงแค่ทำให้เป็นกรณีตัวอย่าง ถ้าเกิดไม่มีก็ไม่ต้องใส่ ไม่ควรมาหยิบของคนอื่น หมวกกันน็อคของตนใบนี้ราคาหมื่นว่าบาท ไม่ได้คาดคิดว่าวางหมวกกันน็อคไว้หน้าบ้านแล้วจะถูกขโมยเกิดขึ้น
นายอนุสรณ์ (ผู้เสียหาย) กล่าวต่ออีกว่า ซึ่งจากการดูกล้องวงจรปิด คนร้ายมากัน 2 คน ให้เพื่อนรออีกฝั่งส่วนคนก่อเหตุขับขี่รถจยย.ข้ามถนนมา และเข้ามาหยิบหมวกกันน็อคของตนไป หลังจากได้ของแล้วก็ขับขี่รถจยย.ไปรับเพื่อนที่รออยู่ด้านนอก ตรงหน้าร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้าม ตนเพิ่งมาอยู่ตรงนี้เมื่อต้นปี แต่ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ เพราะฝั่งนี้มีกล้องวงจรปิด กล้องก็ชัดเจน เจ้าของตึกได้ส่งกล้องวงจรปิดให้ตนเพื่อนำหลักฐานไปแจ้งความ หลังจากนี้ตนคงจะล็อครถให้แน่นหนามากกว่าเดิม คิดว่าคนร้ายคงหลบหนีไม่พ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าน่าจะทำเป็นประจำ ทำไปเรื่อยๆ ภายในโซนจังหวัดนนทบุรี คงเป็นคนในพื้นที่ เพราะรู้เส้นทางหลบหนี ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามอยู่ อยากฝากเอาไว้ว่าอย่าไปทำแบบนี้เลย หากได้หมวกกันน็อคคืนก็ไม่โกรธ แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากตนแจ้งความไว้แล้ว ยืนยันจึงจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด