นนทบุรี วงจรปิด สลด แม่ร่ำไห้นักศึกษาปวช.ปี 3 กลับจากฝึกงานไปไม่ถึงบ้าน ขี่รถจยย.ท้ายกระบะดับ
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 20 ม.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถจยย.ชนท้ายรถกระบะ เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณก่อนถึงสะพานข้ามแยกติวานนท์ (มุ่งหน้าแคราย) ปากซอยนครอินทร์ 4 ถนนนครอินทร์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบรุดตรวจสอบ
ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลา 18.56 น. จับภาพบริเวณช่องทางด่วน ถ.นครอินทร์ (มุ่งหน้าแยกแคราย) พบรถยนต์กำลังจอดชะลอตัวอยู่หลายคัน ขณะที่รถกระบะ 4 ประตู ขับมาจอดเป็นคันสุดท้าย ผ่านไปประมาณ 10 วินาที (ช่วงเวลา 18.56.45 น.) รถจยย.ของผู้ตายได้ขับขี่มาพุ่งชนท้ายรถกระบะ ก่อนที่ผู้ตายจะกระเด็นออกจากตัวรถเสียชีวิต
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 3 เลน บริเวณช่องทางด่วน เลนซ้าย พบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 4 ขด 5463 กทม. จอดอยู่ บริเวณด้านท้ายฝั่งซ้ายพบร่องรอยเฉี่ยวชน กันชนท้ายแตก ใกล้กันพบศพนายจิรวัฒน์ พูลเพชร อายุ 18 ปี เลขที่ 115 ซ.กรุงเทพนนท์ 12 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นักศึกษาปวช.ปี 3 วิทยาลัยเทคโนโลยีพงษ์สวัสดิ์ นอนเสียชีวิต สภาพศพสวมเสื้อนักศึกษาสีขาว ใส่เสื้อสีดำด้านใน สวมกางเกงยีนส์ขายาว ถัดมาพบรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่สีดำ หมายเลขทะเบียน 9 กต 7325 กทม. ล้มอยู่ข้างทาง สภาพด้านหน้ารถพังยับ ด้านคนขับรถกระบะยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ
นายธารา นุโยค อายุ 18 ปี (เสื้อสีดำ) และ นายธีรดนย์ ตั้งพงศ์มนตรี อายุ 17 ปี (เสื้อสีเทา) เพื่อนผู้เสียชีวิต กล่าวว่า คนตายเพิ่งเลิกจากฝึกงานและกำลังจะกลับบ้าน เพิ่งแยกย้ายกับตนเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว และผู้ตายมาขอซื้อเสื้อจากรุ่นน้อง (เสื้อสีเทา) จึงนัดรับกันหลังจากนั้นติดต่อไม่ได้ แม่ผู้ตายจึงโทรมาบอกว่าเขาเสียแล้ว ซึ่งพวกตนรู้จักกันมาประมาณ 2 ปี ตอนนี้รู้สึกตั้งตัวไม่ทัน และผู้ตายขับรถค่อนข้างอันตราย ไม่ค่อยสวมหมวกกันน็อค ซึ่งผู้ตายเรียนอยู่ปวช.ปี 3 อีกเดือนเดียวจะเรียนจบแล้ว ขนาดตนเป็นคนอื่นยังรู้สึกแย่ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของผู้ตายจะรู้สึกยังไง ซึ่งก่อนจะแยกกันมาผู้ตายบอกกับตนว่า “กลับแล้วนะเพื่อน” และขี่รถออกมาเลย อยากฝากถึงคนที่ขับขี่รถจยย.อยากให้สวมหมวกนิรภัย และขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
ด้านนายเอกพร บัวสัมฤทธิ์ อายุ 52 ปี อาชีพข้าราชการ (คนขับรถกระบะ) กล่าวว่า ตนเพิ่งกลับจากเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล ขับรถลงมาจากสะพานพระราม 5 และกำลังจะไปบ้านแฟนแถวแยกติวานนท์ ระหว่างรถชะลอตัวติดไฟแดง ตนก็จอดชะลออยู่ ซักพักได้ยินเสียงชนท้ายดังโครม ซึ่งไม่รู้ว่าผู้ตายมาจากไหน ตนจึงรีบลงมาดู ลูกตนยังเข้าไปสอบถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่เห็นผู้ตายตาลอยแล้วเลยไม่กล้าไปขยับตัว สักพักมีกู้ภัยวิ่งเข้ามาดูและโทรเรียกกู้ภัยมาช่วยเหลืออีก ตนเสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ รู้สึกเครียด เสียเวลาและน้องเขาต้องมาเสียชีวิตอีก ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ อยากขอโทษครอบครัวน้อง ตนไม่ได้ตั้งใจ และอยากฝากให้ทุกคนขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป