ทนายตั้มพาชาวบ้านร้องสอบสวนกลาง หลังสมัครงานออนไลน์ แต่กลับถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ ใข้เป็นบัญชีมัาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ต.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด พา ชาวบ้านจำนวน 5 คน ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชีม้า เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.จารุพันธ์ เอี่ยมโหมด สว.(สอบสวน) กก.3.บก.ปอศ. เพื่อร้องขอให้ช่วยตรวจสอบและติดตามจับกุมตัวมิจฉาชีพเหล่านี้ นายษิทรา กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายกลุ่มนี้ ว่า ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกขโมยข้อมูลส่วนตัว ก่อนนำไปเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ แบ้วนำไปใช้เป็นบัญขีม้ารับโอนเงินผิดกฎหมาย จนตัวเองต้องถูกดำเนินคดี ในวันนี้ตนจึงพาผู้เสียหายกลุ่มนี้มาเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทางตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้มาดำเนินคดี น.ส.จี (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนหน้าตนได้พบเห็นเพจเฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความรับสมัครคนทำงานออนไลน์ เป็นงานเกี่ยวกับโพสต์ขายสินค้า จึงสนใจติดต่อไปสอบถาม จากนั้นก็มีแอดมินทำทีแนะนำให้ตนทำตามขั้นตอน อาทิ สแกนหน้ายืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเนชั่นธนาคารออนไลน์ รวมถึงให้ส่งข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ตอนหลังตนเห็นว่าวิธีการดูผิดปกติ จึงขอยกเลิกสมัครงาน พร้อมกับติดต่อไปยังธนาคาร จึงทราบว่ามีผู้นำข้อมูลส่วนตัวของตนมาเปิดบัญชีออนไลน์ไปแล้ว ก่อนที่ต่อมาจะมีคนมาแจ้งความเอาผิดตนว่าเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้รับโอนเงิน จำนวน กว่า 1 แสนบาท ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย เล่าว่า ตนได้ขอทำเรื่องกู้เงินออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊กหนึ่ง จำนวน 2 หมื่นบาท ซึ่งทางแอดมินเพจดังกล่าวให้ตนกรอกข้อมูลส่วนตัว รวมถึงส่งบัตรประชาชน และภาพถ่ายคู่กับบัตรประชาชนไปให้ อีกทั้งยังให้โอนเงินค่าธรรมการกู้อีกจำนวนหนึ่ง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับเงินกู้ ซ้ำยังต้องถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชีออนไลน์ ใช้เป็นบัญชีม้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินคนอื่น จนตอนนี้ต้องถูกดำเนินคดีถึง 2 คดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด ก่อนประสานส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป











