31 ก.ค.65 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนง, พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ และ พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี รอง ผกก.กก.1 บก.ป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.เกียรติบดินทร์ วงค์งาม รอง สว.ฯรรท.สว.กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.มันทิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 2164/2561 ลงวันที่ 21 กันยายน 2561 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนตุลาคม พ.ศ.2555 กลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกรรมการผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งที่ได้หลอกลวงว่าจะสามารถจัดหามหาวิทยาลัยให้บุตรหลานไปเรียนแพทย์อินเตอร์ที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
แต่เมื่อลูกผู้เสียหายไปถึงมหาวิทยาลัยที่ปักกิ่ง กลับถูกทวงค่าเทอม โดยบริษัทดังกล่าว มี น.ส.ณัฐสุด (สงวนนามสกุล) , น.ส.มันทิราฯ (ผู้ต้องหา) และ น.ส.สิริประภา (สงวนนามสกุล)เป็นกรรมการผู้จัดการ โดยทางบริษัทฯอ้างว่ามีทุนการศึกษาและสามารถส่งนักเรียนไปเรียนต่อและทางมหาวิทยาลัยที่กรุงปักกิ่งก็มีทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาเช่นกันแต่ทางผู้เสียหายต้องจ่ายค่าดำเนินการและส่วนต่างค่าเทอม เป็นเงินรวม 4.5 แสนบาท เมื่อจ่ายเงินให้กับทางบริษัทฯ แล้ว ก็มีการดำเนินการส่งบุตรไปเรียนที่ปักกิ่งเมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ.2555
แต่ภายหลังทางมหาวิทยาลัยได้ทวงเงินค่าเทอม จำนวน 1.75 แสนบาท กับนักศึกษาทางกลุ่มผู้ปกครองจึงได้ทวงถามไปยังบริษัทฯ ซึ่งน.ส.มันทิราฯก็บ่ายเบี่ยงว่าจะดำเนินการให้และได้นัดหมายกลุ่มผู้ปกครองมาตกลงกันที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านซอยรามคำแหง 65 แต่ทาง น.ส.มันทิราฯ อ้างว่า บริษัทขาดทุนอย่างหนัก พร้อมกับบ่ายเบี่ยงและอ้างเหตุผลต่างๆ และขอให้ทางผู้เสียหายจ่ายเงินค่าเทอมกับทางมหาวิทยาลัยไปก่อน และจะยอมชดใช้เงินคืนให้ในภายหลัง ซึ่งคดีนี้มีกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงและส่งบุตรหลานไปเรียนที่กรุงปักกิ่ง จำนวน 41 ราย และยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
ต่อมาพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ น.ส.มันทิราฯ กับพวก เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.มันทิราฯ ผู้ต้องหานี้ได้หลบหนีคดีและมาปรากฏตัวอยู่ที่ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ยืนอยู่บริเวณลานจอดรถปั๊มแก๊ส LPG ใน ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตัวและแสดงหมายจับให้ทราบ เบื้องต้น น.ส.มันทิราฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าตนเป็นกรรมการของบริษัทฯ จริงและได้ทำการส่งนักเรียนไปเรียนแพทย์อินเตอร์ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งบริษัทขาดทุนอย่างหนัก ไม่สามารถนำเงินไปจ่ายค่าเทอมให้กับมหาวิทยาลัยดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป