กองปราบบุกรวบหนุ่มพยายามฆ่า หนีกบดานประเทศมาเลเซีย ตรวจพบต้องคดีตามปฏิทินของ ตร. ลำดับที่ 193 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมษฐ์ อัครโชควรานนท์, พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายสลามฯ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.406/2564 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ พยายามฆ่าผู้อื่น ” สถานที่จับกุม บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ต.สำนักขาม อ.สะเดา จังหวัดสงขลา สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 03.00 น. ผู้เสียหายกับเพื่อนได้เดินทางมาที่ร้านขายอาหารตามสั่งจุดเกิดเหตุเพื่อมานั่งเล่นเกมส์ จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ของวันเดียวกัน ผู้ต้องหาได้เดินทางมายังร้านอาหารดังกล่าวเพื่อเข้ามารับประทานอาหาร โดยผู้ต้องหาได้เข้ามานั่งที่โต๊ะด้านข้างของผู้เสียหาย ต่อมาผู้ต้องหาได้เดินเข้ามาหาผู้เสียหายเพื่อตกลงพูดคุยปัญหาส่วนตัว จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดตีเข้ามาที่บริเวณศีรษะทางด้านขวาของผู้เสียหาย และยิงใส่ที่ผู้เสียหายแต่กระสุนด้าน ผู้เสียหายจึงรีบวิ่งหลบหนี หลังจากนั้น ผู้เสียหายได้ยินเสียงลั่นไกปืนอีกจำนวน 1 นัด ซึ่งคาดว่ากระสุนด้านอีก จึงรีบวิ่งหลบหนีไปเพื่อแจ้งเหตุให้กับผู้ใหญ่บ้าน ระหว่างนั่นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกจำนวน 2 นัด จากนั้นผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ผู้เสียหายจึงรีบมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุให้ถึงที่สุด จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืนในพื้นที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อปี 2563 และหลังเกิดเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศ จนกระทั่งถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ต้องหาตามปฏิทินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2566 ลำดับที่ 193 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหายังคงหลบหนีตั้งแต่ ปี 2564 โดยได้หลบหนีไปพักอาศัยในเมืองอลอร์สตาร์ รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย และทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งฯ โดยคาดว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายและเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานตำรวจฝ่ายสืบสวนของมาเลเซีย ให้ช่วยดำเนินการจับกุมตัว ละผลักดันกลับเข้าประเทศ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยตามกฎหมาย ต่อมา ได้รับความร่วมมือจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประเทศมาเลเซียและฝ่ายสืบสวน นำตัวผู้ต้องหามาส่งมอบให้ที่ด่านพรมแดน อ.สะเดา จ.สงขลา และทำการบันทึกจับกุม จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย เพียงแต่ทะเลาะวิวาทในเรื่องปัญหาหนี้สินกับผู้เสียหายเท่านั้น แต่ไม่กล่าวถึงว่าเป็นหนี้สิน จากเรื่องอะไร หลังเกิดเหตุเกรงกลัวความผิดจึงหลบหนีเข้าไปอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ปี 2564 มาจนกระทั่งถูกจับกุม
