กรณีพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม ถูกนายบุญมา วณิชพงศ์ธร หรือเฮียตุ๊ง อายุ 49 ปี คลุ้มคลั่งยิงเสียชีวิตและด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผบ.หมู่ป.สน.ท่าข้าม ถูกสะเก็ดกระสุนกระเด็นใส่ที่บริเวณนิ้วโป้งมือซ้าย รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 45/257-258 ตึกแถว 3 ชั้น 2 คูหา เปิดเป็นโรงพิมพ์ ภายในหมู่บ้านดีเค ซอย 2 ถนนพระราม2 แขวงและเขตบางบอน กทม.ช่วงเวลา21.45น. วันที่ 20 ก.ค. ผู้ก่อเหตุเก็บตัวอยู่ในบ้านยิงปืนออกมาเป็นระยะเจ้าหน้าที่เกลี่ยกล่อมตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ก่อนช่วงฟ้าสางวันที่ 21 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) หรืออรินทราช 26 บุกเข้าจับกุมตามยุทธวิธีทำให้ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตบริเวณใต้บันไดชั้นลอย ใช้เวลาปฏิบัติหน้าที่เกือบ 9 ชั่วโมง ยังไม่แน่ชัดถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมหรือผู้ก่อเหตุยิงตัวตายก่อนเข้าจับกุมอยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 21 ก.ค. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวชรพ.ศิริราช เดินทางเข้ามาที่เกิดเหตุ มีพล.ต.ต ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม นำตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรศพนายบุญมา วณิชพงศ์ธร หรือเฮียตุ๊ง พบศพนอนตะแคงซ้ายบนเตียงนอนขาห้อยทั้ง 2 ข้าง บริเวณชั้นลอย พบปืนไม่ทราบขนาดตกด้านขวาของร่างกาย มีบาดแผลกระสุนปืนที่ขมับขวา และเลือดแห้งกรัง
นอกจากนี้ยังพบร่องรอยกระสุนเกือบ 100 นัด ในที่เกิดเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่เรียกให้ลูก 3 คนของเฮียตุ๊งที่สังเกตการณ์อยู่หน้าบ้าน เข้าไปพูดคุยที่บริเวณหน้าบ้านและดูศพพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพส่งรพ.ศิริราช เพื่อชันสูตรสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
นายนพดล ชัยวงศ์ อายุ 39 ปี เพื่อนบ้านตรงข้ามกับบ้านของเฮียตุ๊ง กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงตำรวจมาเรียกเฮียตุ๊ง ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ภาพที่เห็นคือตำรวจล้มลงหลังถูกยิง ตอนนั้นตนรีบหาที่กำบังหมอบทันที เพราะเกรงว่าจะถูกกระสุนยอมรับว่าตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ที่ผ่านมาเฮียตุ้งมักจะมานั่งกินเหล้าด้วยบ่อยครั้ง เพราะร้านชำตัวเองอยู่ตรงข้ามบ้าน และเห็นเขาพกอาวุธปืนมาด้วย โดยแต่ละครั้งที่มานั่งกินกัน เขาก็ชอบบ่น ชอบพูดให้ฟังว่า “เครียด ไม่ได้อยู่กับลูกกับเมีย มีเงินใช้ไปจนตาย แต่ลูกเมียก็ไม่อยู่ด้วย“ และยิ่งเวลากินเหล้า เขาก็ยิ่งอารมณ์ร้อน เดือดง่าย บางครั้งก็สร้างปัญหาให้เพื่อนบ้าน ตนเคยเตือนเคยบอก แต่เขาก็ชอบพูดว่า ”กูมีบัตรบ้า กูยิงคนไม่ผิด“
ขณะเดียวกัน เพื่อนบ้านหญิงชราอีกราย บอกว่า เมื่อคืนได้ยินเสียงปืนประมาณ 2 ชุด เปิดหน้าต่างออกมาดู พบว่ามีตำรวจ 2 นาย มาดูที่เกิดเหตุ จากนั้นเห็นว่าตำรวจถูกยิงตกใจ แต่ก่อนหน้านั้น ตนเห็นภรรยาของเฮียตุ้งมาที่บ้านแล้ว เพราะได้ยินลูกบอกว่า “แม่ขึ้นรถพยาบาลไปด้วย”
เมื่อถามว่าเฮียตุ๊งเป็นคนนิสัยยังไง เพื่อนบ้านรายนี้ บอกว่า เมื่อก่อนเฮียตุ๊งเป็นคนใจดี เวลาชุมชนมีกิจกรรม ก็จะช่วยเหลือตลอด แต่ระยะหลังตั้งแต่ช่วงโควิดมา เฮียตุ๊งเปลี่ยนไป เป็นคนอารมณ์ร้อน จะทะเลาะกับลูก เคยไปโวยวายตามลูกที่ทำงานลูก จนชาวบ้านเห็นเป็นประจำและตำรวจก็ได้รับแจ้งเหตุเป็นประจำ เคยมีครั้งหนึ่งลูกสาวได้วิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือกับชาวบ้านและตำรวจได้เข้ามาช่วยไว้ทัน
และทุกครั้งที่เฮียตุ๊งทะเลาะกับลูกก็จะเอาปืนมายิงเฉลี่ยเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่สิ่งที่ชาวบ้านกลัวและกังวลคือเรื่องที่เฮียตุ๊งขับรถเร็ว เร็วมาก แบบถ้าใครถูกชนคือตายได้เลย เป็นสิ่งที่ชาวบ้านกลัวและกังวล ส่วนเรื่องยิงปืนหรือทะเลาะกับลูก ไม่ค่อยกระทบเพราะจะทะเลาะกันในบ้าน แต่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจ เพราะมีตำรวจดี ๆ ต้องเสียชีวิตจากเหตุที่เป็นเรื่องทะเลาะในครอบครัว
ขณะที่เพื่อนหญิงคนสนิทของภรรยาเฮียตุ๊ง เผยว่า เมื่อวานนี้ภรรยาเฮียตุ๊งโทรมาบอกด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงว่า “ลูกสาวอยู่ในบ้านถูกปืนตบหัว มีตำรวจมาหรือยัง รถแดง (รถเฮียตุ๊ง) ยังอยู่ไหม” ตนบอกกลับไปว่า ”มีแล้ว ตำรวจขี่รถจยย. มากันแค่ 2 คน“ ตอนนั้นยังไม่เกิดเรื่อง ก่อนจะพบว่าตำรวจถูกยิง
ก่อนหน้านี้ตำรวจได้ช่วยลูกสาว 2 คนของเฮียตุ๊ง ให้ปีนบันไดลงมาจากบ้านได้ หลังก่อนหน้านี้เดินทางเข้ามาที่บ้าน เพื่อช่วยพ่อทำงาน เพราะสงสาร แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ภรรยาของเฮียตุ๊งกับลูกสาวทั้วหมด ย้ายไปเช่าคอนโดอยู่ได้ประมาณเดือนกว่าแล้ว มีเพียงเฮียตุ๊งคนเดียวที่อาศัยอยู่บ้านหลังนี้ สาเหตุที่ภรรยาและลูกต้องย้ายหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะไม่กล้าอยู่กับเฮียตุ๊ง ที่ผ่านมาภรรยาเคยถูกซ้อมมาแล้ว แถมยังอารมณ์ร้อนเวลาหิว จะกินข้าวกลางดึก ต้องตื่นมาทำให้กิน หรือขนาดไปซื้อไข่ที่ตลาด ถ้าใช้ให้มาถือไม่ทันใจเขวี้ยงไข่ใส่กลางบ้าน ที่ผ่านมาเฮียตุ๊งป่วย ต้องกินยาตลอด และไปรักษารักษาอยู่รพ.ศรีธัญญา แต่ขอร้องภรรยาว่าอยากกลับบ้านและกินยาตามปกติ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กิน จนอาการกำเริบหนัก ช่วงหลังที่ภรรยาและลูกไม่อยู่ มักจะชอบยิงปืนขึ้นฟ้าด้วยความเครียด พร้อมตะโกนว่า “เอาเมียกูคืนมา” แล้วยังคิดว่าภรรยามีชู้ ชอบขโมยเงินด้วย ภรรยาเฮียตุ๊ง มักระบายให้ฟังว่าทนมาหลายปีแล้ว จนทนไม่ไหวและไม่อยากอยู่ด้วย
ด้านพล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น. 9 เปิดเผยว่า การเสียชีวิตของพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม เป็นกรณีที่เสียชีวิตขณะปฎิบัติหน้าที่ ส่วนนี้ยืนยันจะดูแลอย่างเต็มที่ โดยมีสวัสดิการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ที่จะเข้ามาดูแล
ขณะที่รายละเอียดเป็นการยิงตัวตายหรือวิสามัญยังไม่ได้ข้อสรุปต้องรอผลชันสูตรศพ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่พบศพพบว่าเลือดแห้งแล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ได้เดินทางมาระงับเหตุด้วยตัวเอง พร้อมกับด.ต.ไชยวัฒน์ ครั้งแรกที่เดินทางมาถึงได้พบว่าผู้ก่อเหตุ และลูก 2 คน อยู่ภายในบ้าน ญาติได้ขอร้องให้ช่วย ตำรวจพยายามเข้าไปภายในบ้าน เพื่อเข้าประกบตัวผู้ก่อเหตุ แต่ระหว่างนั้นลูกของผู้ก่อเหตุได้วิ่งสวนออกมาทางประตูด้านหน้า ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกระสุนปืนยิงใส่ และไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจยิงหรือไม่ สำหรับพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ มีรายงานว่าจะเกษียณอายุราชการในปี 2568 จากข้อมูลพบว่าเจ้าตัวเป็นคนขยันทำงาน และมักเข้าระงับเหตุสำคัญด้วยตัวเองมาโดยตลอด
พล.ต.ต.ประสงค์ เผยอีกว่าสำหรับศพของพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ในวันนี้เจ้าหน้าที่นิติเวชจะชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ก่อนจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดยางสุทธาราม ย่านบางกอกน้อยวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)
ส่วนด้านของผู้ก่อเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่สอบปากคำไปแล้ว 6 ปาก ประกอบด้วยภรรยาผู้ก่อเหตุ และลูกของผู้ก่อเหตุอีก 5 คน พบว่า ทั้งหมดอยู่ในอาการเครียด ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้ำหนักสาเหตุการเสียชีวิตของเฮียตุ้งไปที่การจบชีวิตตัวเอง เนื่องจากเมื่อเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าเลือดในที่เกิดเหตุแห้งแล้ว แต่ความชัดเจนต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานจากทาง แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชต่อไป
ขณะที่พ.ต.ท.มงคล สังข์เพิ่ม สวป.สน.ท่าข้าม เข้าระงับเหตุพร้อมพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ หรือ รองหรั่ง รองผกก.ป.สน.ท่าข้ามกล่าวว่า ตนและรองหรั่ง รับแจ้งเหตุแล้ว เดินทางมาช่วย เมื่อมาถึงก็พยายามเข้าไปช่วยตัวประกัน และเมื่อเห็นจังหวะที่รองหรั่งจะเข้าไปชาร์จ ตนรีบวิ่งเข้าไป แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตัวประกันวิ่งสวนออกมา ทำให้เฮียตุ้งยิงรัวออกมา กระสุนจึงไปโดนรองหรั่ง วินาทีนั้นตนเห็นจึงรีบเอาโล่มากำบังและรีบลากร่างของรองหรั่งออกมาจากหน้าบ้าน และรีบเรียกรถพยาบาลทันที
เมื่อถามว่ารองหรั่งตอนนั้นมีสติหรือไม่ ยอมรับไม่ทราบจริงๆ เพราะเหตุการณ์เร็วมาก และต้องการจะช่วยเหลือผู้บังคับบัญชาอย่างเดียว
พ.ต.ท.มงคล เผยอีกว่า คนร้ายตั้งใจยิงออกมาถึงทำให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเองเสียชีวิต ในฐานะลูกน้อง เสียใจมาก ท่านรองเป็นคนดีมากๆเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีไม่พูดหยาบกับลูกน้อง ถามตำรวจคนไหนก็ได้ จะบอกว่ารองหรั่งเป็นคนดีมากจริงๆ เมื่อถามว่ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียขวัญหรือไม่ ยืนยันว่าไม่เสียขวัญ เพราะตำรวจมีหน้าที่รับใช้ประชาชน
เมื่อถามถึงครอบครัวของรองหรั่งนั้น ท่านรองมีลูกชายเป็นตำรวจ “ยศร้อยตำรวจโท” เป็นรองสารวัตร อยู่ที่ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ขณะที่มีข้อมูลว่าเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว แม่ของรองหรั่งเพิ่งเสียชีวิตไป.
////