////////
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)
นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พาหญิงสาว 3 ราย
เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ปาณสาร บุญแจ่ม สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อลงบันทึกประจำวัน แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเจตนาเป็นภรรยาน้อย หลังถูกชายวัย 61 ปี หลอกว่าได้หย่าร้างกับภรรยาเก่าแล้วนานกว่า 8 ปี ปัจจุบันมีสถานะโสด ไม่มีบุตรหรือภรรยา จนมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อคบหาหลายราย โดยปัจจุบันทราบตัวผู้เสียหายแล้ว 13 ราย
นายรัชพล กล่าวว่า วันนี้ได้นำหญิงสาวมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังพบว่า ทางชายวัย 61 ปี มีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย และยังไม่ได้หย่าร้าง ตามที่อ้างกับหญิงสาว อีกทั้งยังมีข้อมูลว่าฝ่ายภรรยาหลวง เตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มภรรยาน้อย สำหรับกรณีนี้ ชายวัย 61 ปี ได้หลอกหญิงสาวให้อยู่ในสภาพอนุภรรยาโดยไม่รู้ตัว รวมล่าสุด 13 ราย โดยรายสุดท้าย เพิ่งติดต่อมาหาตนเมื่อเช้าที่ผ่านมา ซึ่งรู้ตัวว่าถูกหลอกให้เป็นภรรยาน้อยหลังมีข่าวออกมา โดยการลงบันทึกประจำวันครั้งนี้ เพื่อต้องการป้องกันปัญหาในอนาคต หากเกิดการฟ้องในชั้นศาล จะนำบันทึกดังกล่าวไปเป็นหลักฐานว่าทั้งหมดตกเป็นเหยื่อ โดยไม่มีเจตนาเป็นภรรยาน้อย ส่วนการดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าวนั้นยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ส่วนตัวได้คุยกับชายคนดังกล่าวมานานกว่า 1 ปี มีสถานะเพียงแฟน ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งฝ่ายชายบอกว่าได้หย่าร้างกับภรรยามานานกว่า 8 ปี และต้องการแต่งงานกับตนเอง พร้อมไปใช้ชีวิตที่ภาคใต้ และมีความพยายามนัดเจอเพื่อออกมารับประทานอาหารร่วมกัน แต่ส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อ จึงปฏิเสธที่จะไปตามนัดหมาย อย่างไรก็ตาม ตนเองกับชายคนดังกล่าว รู้จักกันผ่านทางเฟสบุ๊ก ยอมรับว่าที่รู้ตัวว่ากำลังถูกหลอก เพราะอดีตภรรยาน้อยอีกรายซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายได้โทรศัพท์มาบอกว่าชายคนดังกล่าวมีครอบครัวแล้ว
ด้าน น.ส.บี (นามสมมติ) อดีตภรรยาน้อย กล่าวว่า ส่วนตัวได้เลิกรากับชายคนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2564 หลังอยู่กินมาร่วม 2 ปี โดยไม่รู้ตัวว่าถูกหลอก ซึ่งระหว่างที่คบหากันนั้น ไม่พบพิรุธใดที่บ่งบอกว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว อยู่กินกับตนเองตามปกติ สังคมรอบข้างรับรู้ ยอมรับว่าเริ่มสงสัยในตัวชายคนดังกล่าวหลังพบภาพไปเที่ยวกับครอบครัวและญาติในเฟสบุ๊ก จึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหา แต่ฝ่ายชายไม่รับสาย จึงส่งข้อความทางเฟสบุ๊กแทน พร้อมสืบค้นข้อมูลเพื่อหาข้อเท็จจริง จนพบภาพภรรยาและลูกของฝ่ายชาย จึงตัดสินใจตัดความสัมพันธ์ทันที กระทั่งพบว่า ฝ่ายชายได้เข้ากดไลก์ น.ส.เอ บ่อยครั้ง รวมถึงมีการแสดงความเห็นเชิงจีบฝ่ายหญิง จึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อบอกเรื่องราวทั้งหมด
ขณะที่ น.ส.ซี (นามสมมติ) อีกหนึ่งผู้เสียหาย กล่าวยืนยันว่า เพิ่งคบชายคนดังกล่าวมา 8 เดือน ตลอดเวลาที่คบหากัน ฝ่ายชายไม่มีพฤติกรรมบ่งบอกว่ามีครอบครัวแล้ว ส่วนตัวเพิ่งมาทราบจากข่าวว่าตนเองตกเป็นเหยื่อของชายคนนี้ จึงโทรศัพท์หา น.ส.เอ เพื่อรวมตัวกันมาลงบันทึกประจำวัน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่พวกตนทั้ง 3 คน ไปออกรายการดัง ชายคนดังกล่าวยังอ้อนวอนขอให้ตนยืนเคียงข้าง อ้างว่าจะไปหย่ากับภรรยาและอยู่กินอย่างเปิดเผย แต่ตนปฏิเสธไป
//////////