เสี่ยฟาร์มหมู รวมพลคนรุ่นใหม่ นำทัพออกร้านนำหมูหันอบจำนน 5 ตัว นำหนัก จ300 กิโลกรัม ออกร้านร่วมงานกฐินวัดลำเหย นครปฐม โดยมีชาวบ้านต่อแถวคิวยาวรอชิมของอร่อยเจ้าดัง ส่วนคนในพื้นที่ 15 ตำบล ร่วมใจกันนำอาหารคาว หวาน ออกแจกจ่ายผู้ร่วมงานบุญ กว่า 124 ซุ้มตั้งเป้าร่วมกันสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่
วันที่ 26 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานบุญทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2566 วัดลำเหย อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญ ที่ทำการสร้างขึ้นมาใหม่ทดแทนของเดิมที่ชำรุดทรุดโทรมเพื่อให้ญาติโยม ประชาชน ชาวบ้านในพื้นที่ได้มีสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งศาลเดิมได้ใช้งานมานานหลายสิบปี และเป็นดำริของพระปลัดพล ติกฺขวีโร เจ้าอาวาสวัดลำเหย ที่อยากจะให้มีการสร้างศาลใหม่ขึ้นเพราะมีประชาชนมีความประสงค์จะใช้สถานที่มากขึ้น ซึ่งมีผู้นำชุมชน อาทิ นายบัญชา บุญวงษ์ อดีต สจ.เขต 2 อ.ดอนตูม กำนันชัยรัตน์ เณรตาก้อง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอดอนตูม นายกมงคล โสภาพ อบต.ลำเหย นายอมรศักด์ สุริยาวงษ์ รองนายก อบต.ต.ลำเหยนายสุรศักดิ์ เก็กง้วน ประธานสภา อบต.ลำเหย และผู้นำฝ่ายปกครองมาร่วมกันจัดงานอย่างคึกคัก ซึ่งบรรยากาศภายในงาน ได้มีประชาชนกว่า 3-4 พันคนมาร่วมงานโดยมีการออกร้านที่เป็นประชาชนและชาวบ้านสายบุญ ได้ร่วมือกับผู้นำชุมชนในตำบลทั้ง 15 หมู่บ้านนำอาหาร หวาน คาว เครื่องดื่ม มาตั้งบูทออกร้านค้าเตรียมรองรองประชาชนมากถึง 124 ซุ้ม
นายสุรชัย แสงอรุณ 44 อายุ เจ้าของร้าน เสี่ยเอ หมูหัน บอกว่า ชาวบ้านที่มาร่วมงานในวันนี้ได้จัดหมูหันอบ จำนวน 5 ตัว น้ำหนักรวมกว่า 300 กิโลกรัม มูลค่าไม่น้อยกว่า 30,000 บาท มาหันและสับแจกภายในงาน โดยเป็นการรวมตัวของฟาร์มเลี้ยงหมูและห้องเย็น ในพื้นที่ รวมถึงยังมีพุทธศาสนิกชน ที่เป็นแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านก็ได้สมทบทุนจัดซื้อเนื้อหมูมาอีก 50 กิโลกรัมมาร่วมบุญ และได้ออกร้านแจกจ่ายให้คนภายในงานได้มาร่วมชิมและได้อิ่มท้องและอิ่มบุญกลับบ้านกันทุกคนในวันนี้
วัดลำเหย เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลลำเหย อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม มีพื้นที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ 11 ไร่ 80 ตารางวาวัดลำเหยเริ่มสร้างวัดวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2347 เดิมมีชื่อว่า วัดโพธิ์ชายนา สร้างอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่บ้านหนองบอนเดี๋ยวนี้ ตามคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่บอกว่าเหตุที่วัดเดิม มีชื่อว่าวัดโพธิ์ชายนานั้น เพราะบริเวณรอบ ๆ ที่สร้างวัดมีแต่ที่นาล้อมรอบและที่เป็นนานั้นมีแต่ต้นโพธิ์ ขึ้นอยู่ตามชายนามาก จึงได้ชื่อนี้มา ต่อมาได้มีการย้ายที่ตั้งวัดมายังที่ตั้งปัจจุบัน ไม่ทราบว่าย้ายมาสถานที่ใหม่ในสมัยเจ้าอาวาสรูปใด สาเหตุที่ย้ายวัด เนื่องจากที่ตั้งเดิมเป็นทุ่งนาเป็นที่ราบต่ำเมื่อถึงหน้าน้ำป่าหรือน้ำปีก็จะไหลหลากท่วมทุกปีจึงย้ายวัดมาสร้างในสถานที่ใหม่ มายังที่ดอน แล้วเปลี่ยนชื่อมาเป็น “วัดลำเหย” เหตุที่เปลี่ยนชื่อ เพราะ ในสมัยก่อนนั้นเมื่อถึงหน้าน้ำปีมา น้ำจะไหลหลากเจิ่งนองท่วมท้องนา ไหลไปตามลำคลองใหญ่ชื่อว่า คลองวังไทรแล้วไหลเข้าสู่คลองตำลึง ไหลผ่านไปตามทุ่งนา และตามลำรางเรื่อยมาจนถึงข้างหลังโรงเรียนวัดลำเหย พอมีน้ำปีก็จะไหลเอ่อขึ้นไปยังทุ่งหนองบอนเป็นที่สุดไม่ได้ไหลไปที่ไหนได้อีกแล้วน้ำจะขังอยู่ทุ่งหนองบอน ไม่นานเพราะทุ่งหนองบอน เป็นเขตสุดของไหลน้ำนี้ ก็จะย้อนกลับมาอยู่ที่ลำรางข้างโรงเรียน เพราะลำรางนี้เป็นที่ต่ำมาก น้ำก็ขังอยู่ที่ลำรางนี้น้ำจะไม่ไหลไปไหนได้อีกแล้วน้ำที่ลำรางนี้ก็จะถูกธรรมชาติจากแดดบ้าง ลมบ้าง แผดเผาพัดพาให้น้ำในลำรางให้ค่อย ๆ แห้งระเหยหมดไปในที่สุด จึงเป็นเหตุให้ชื่อว่า “วัดลำเหย” โดยคำว่า “เหย” มาจากคำว่า น้ำระเหย นั่งเอง
ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม 092-5462794