ตำรวจสระบุรีจับทีมลำเลียงยาเสพติด”บังซุบ บึงกุ่ม” ได้ยาบ้า 5.52 ล้านเม็ด มูลค่า 167 ล้านบาท
วันที่11 พ.ย. 67 เวลา11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 ถ.วิภาวดี รังสิต กทม.พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รรท.ผบช.ภ.1. พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1และ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1พล.ต.ต.ธรรมนูญ เขาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จ.สระบุรี ร่วมแถลงการจับกุมเครือข่ายทีมลำเลียงยาเสพติด”บังซุบ บึงกุ่ม”ยึกยาบ้า 5,520,000เม็ด มูลค้า167,000,000 บาท
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ และ ทีมลำเลียงยาเสพติดได้หลายคดี ทำให้ทราบว่านายภูชิตหรือบังซุบ มีภูมิลำเนาอยู่บริเวณเขตบึงกุ่ม กทม. มีพฤติการณ์เป็นผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้รับในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย โดยใช้รถยนต์ กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้บูรณาการ กำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามจับกุมนายภูษิตา
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 67 จากการสืบสวนทราบว่านายภูษิตฯ ได้ใช้รถยนต์กระบะลำเลียงยาเสพติด ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร
เดินทางไปลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้ามาพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้เส้นทางถนนหมายเลข 2089 มวกเหล็ก – อำนารายณ์ มุ่งหน้า จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเพื่อคอยจับกุม จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที พบรถยนต์กระบะที่ใช้ในการลำเลียงยาเสพติด ขับผ่านมาถึงบริเวณถนนสุดบรรทัด ม.4 ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงได้ทำการสกัดรถที่ใช้ลำเลียงยาเสพติดให้หยุดแล้วแสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ โดยสามารถจับกุมนายภูษิตหรือบังทุบ อายุ 47 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บริเวณเขตบึงกุ่ม กทม. ทำหน้าที่ผู้ขับรถยนต์กระบะลำเสียงยาเสพติด ค้นในรถพบยาบ้า 5,520,000เม็ด ซุกซ่อนภายในห้องโดยสารของรถยนต์ กระบะที่ถูกจับกุม นายนายภูษิตหรือบังทุบ ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างให้ขนยาดังกล่าวเป็นจำนวนเงิน30,000บาทและกระทำเป็นครั้งแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
การจับกุมในครั้งนี้เป็นความสำเร็จจากแผนปฏิบัติการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดสู่พื้นที่ชั้นใน ของประเทศ โดยสามารถยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลาง หากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ากว่า 167,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป.