บุกรวบคาผ้าเหลืองอดีตกรรมการบริษัทจำหน่ายเศษเหล็กปลอมใบกำกับภาษี 146 ล้านบาท
หลังหนีไปบวช 3 ปี อดีตกรรมการบริษัทจำหน่ายเศษเหล็กทุกชนิด ได้ออกใบกำกับภาษีปลอมโดยไม่มีสิทธิจะออก ทำให้รัฐเสียหายกว่า 146 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2.บก.ปอศ.
และ พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2.บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรรณลพ รัตนวงษ์ สว.กก.2.บก.ปอศ., ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ ฮงสูน, ร.ต.อ.จักรินทร์ พรอินทร์ รอง สว.กก.2.บก.ปอศ.,
ร่วมกันจับกุม นายธนโชติฯ อายุ 65 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรสาคร
ที่ จ.122/2567ลงวันที่ 26เมษายน 2567ในความผิดฐาน “ร่วมกันมีเจตนาออกใบกำกับภาษี โดยไม่มีสิทธิจะออก อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4(3)แห่งประมวลรัษฎากร”
สถานที่จับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2.บก.ปอศ. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาที่ภายในบริเวณวัดแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 4.บ้านสระจันทอง ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
สืบเนื่องจาก กก.2.บก.ปอศ. ได้เปิดปฏิบัติการ Anti tax crime จึงได้เริ่มปฏิบัติการปราบปรามกับขบวนการปลอมใบกำกับภาษีอย่างต่อเนื่อง และกรมสรรพากรได้เข้ามาร้องทุกข์ที่ กก.๒
บก.ปอศ. ให้พิจารณาดำเนินความผิดคดีอาญา กับจับกุม นายธนโชติฯ ผู้ต้องหา ทั้งในฐานะนิติบุคคล และฐานะส่วนตัว ซึ่งมีชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม และประกอบกิจการจำหน่ายเศษเหล็กทุกชนิด เมื่อไปตรวจสอบพบว่าบริษัทฯ ได้รื้อถอนและไม่มีการประกอบกิจการแล้ว ประกอบกับกองตรวจสอบภาษีกลาง ได้นำรายชื่อบริษัทดังกล่าว ขึ้นตรวจสอบ
ในระบบข้อมูลผู้ออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประเภทไม่ต้องสอบยัน
ดังนั้นใบกำกับภาษีที่บริษัท ดังกล่าวออกจึงเป็นใบกำกับภาษีที่ไม่มีสิทธิจะออก ตามมาตรา 86/13,90/4(3)ประกอบมาตรา 83
แห่งประมวลรัษฎากร และบริษัทได้ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิจะออก ตั้งแต่ปี 2555- 2558
การกระทำดังกล่าวทำให้รัฐขาดรายได้ไม่ได้รับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้กระทบถึงเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ และรัฐได้รับความเสียหายกว่า 146 ล้านบาท
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนสืบทราบว่า นายธนโชติฯ ผู้ต้องหา
ได้หนีไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เดินทางไปวัดดังกล่าว และเมื่อผู้ต้องหาปรากฏตัวจึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจสอบและพบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง จึงดำเนินการจับกุมบริเวณดังกล่าว และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2.บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การให้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิด รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจ ที่ได้ดำเนินการออกใบกำกับภาษีปลอม โดยไม่มีสิทธิจะออก ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย ซึ่งถือว่าเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายรัษฎากร และฝากเตือนถึงประชาชนทั่วไปห้ามซื้อขายบัตรประชาชน หรือบัญชีธนาคารให้กับบุคลอื่นๆ ก่อนที่จะตกเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว และความผิดดังกล่าว
มีโทษจำคุกสูงถึง 7 ปี
รวบคาผ้าเหลือง#ปลอมใบกำกับภาษี#146ล้านบาท













