ส.ส.มหานิยม อัดกติกาหาร 500 เป็นการโหวตที่อัปยศ ชี้ไม่ได้แพ้แล้วโวย แต่ในการเลือกตั้งสมัยหน้า พรรคเพื่อไทยไม่โง่ มีวิธีแก้คือตั้งพรรคสำรองไว้สมัครปาร์ตี้ลิสต์โดยเฉพาะ จะได้ ส.ส.มากกว่าเก่า
จากการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมติเสียงส่วนใหญ่ ได้ยกมือเห็นชอบกับการแก้ไขมาตรา 23 ของ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ตามกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อย ที่ให้ใช้สูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบจัดสรรปันส่วนผสมโดยเอา 500 หาร จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักอยู่ในขณะนี้ ในเรื่องนี้ ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เปิดบ้านและให้ความเห็นว่า ในฐานะที่ตนเป็นตัวแทนประชาชน และ ส.ส.ภาคอีสาน ได้รับการสอบถามเข้ามาจำนวนมากว่า กรณีที่เกิดขึ้น จะทำให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตย มีปัญหาในการเลือกตั้งในครั้งต่อไปหรือไม่ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ ทนพอแล้วกับการบริหารของรัฐบาลและพรรคร่วม แตต้องการแปลี่ยนแปลง แต่ผลออกมากลับเป็นว่าไม่เห็นหัวประชาชนเลย ลักษณะแบบนี้ถอยหลังลงคลอง เพื่ออยากทำให้พรรคพวกของตนเองและกลุ่มการเมืองที่กุมอำนาจอยู่กลับมาอยู่ต่อ เพราะเห็นแล้วว่าพรรคพวกของตนเองนั้นระส่ำระส่ายกระแสไม่ดี และกลัวคนที่เคยอยู่รู้ทันเมื่อออกไปแล้วจับมือกันกลับมาเขย่าขาที่เคยอยู่ฝากรัฐบาล
“ผมอยากบอกพี่น้องว่าความเป็นจริง พรรคเพื่อไทยไม่โง่ โดยเราคิดใหม่แล้วไม่ต้องกลัว วันนี้พรรคเพื่อไทย ไม่เล่นแบบเดิม เช่น ส่งปาร์ตี้ลิสต์ 100 แบบเขต 400 เขต เรามีแผนรับมือ เช่น อาจจะส่งแบบเขต 400 เขตเท่านั้น และตั้งพรรคใหม่เพื่อส่งแบบปาร์ติ้ลิสต์อย่างเดียวโดยทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนและเชื่อว่าประชาชนเข้าใจมากขึ้นเนื่องจากโลกโซเซียลไปไวหาอ่านศึกษาได้ง่าย แม้แต่คนอายุ 60 ปีขึ้นไป ยังมีพรรคการเมืองบางพรรคของคนรุ่นใหม่ ที่ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้โหวตให้ คุณจะปฏิเสธอย่างไรในเมื่อในสภาระบุชื่อไปแล้ว ซึ่งตนไม่อยากพูด เพราะตนสมเพชวิธีเล่นการเมือง ที่ไม่สร้างสรรค์เช่นนี้” ส.ส.นิยม กล่าว
ส.ส.นิยม กล่าวต่อว่า ผู้ที่มีอำนาจปัจจุบัน คิดว่าเราโง่ให้กลับไปคิดทบทวนใหม่ รับรองรอบหน้าไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกลัวและมองว่าในฐานะตนที่นั่งในห้องประชุม และอภิปรายรวมถึงขับเคลื่อนกฎหมาย ผลออกมามันคือกติกาอัปยศที่สุด เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่ากฎหมายมันทำไม่ได้ ไม่มีประเทศไหนเขาใช้กัน ไปลอกของประเทศอื่นมา แต่ดันลอกมาแค่บางส่วน เพื่อเอื้อพวกพ้องตนเอง และเป็นเรื่องที่น่าเกลียดที่สุดในสภา และเขาก็เรียกหลายพรรคไปคุยกันหมด ยังดีที่บางคนบางกลุ่มรับไม่ได้เลยไม่ออกเสียงไม่เห็นด้วย เพราะดูแล้วมีการสั่งการแบบนี้ เขาไม่ได้เรียกว่ารัฐสภาเผด็จการแต่คือเผด็จการรัฐสภา สั่งมาแบบนี้โดยไม่คำนึงถึงข้อกฎหมายเลย ยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่มีวันแพ้ต้องรอดูต่อไป.
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร