ตำรวจไซเบอร์บุกค้นบ้านหนุ่มฝั่งธน สตาร์ทอัพขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านสื่อออนไลน์ . สืบเนื่องจากภาครัฐได้ตระหนักถึงการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชน ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจ การบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชนไทยปี 2565 โครงการ Global Youth Tobacco Survey จากองค์การอนามัยโลก พบเด็กและเยาวชนอายุ 13-15 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 5.3 เท่า จาก 3.3% ในปี 2558 เพิ่มเป็น 17.6% ในปี 2565 ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้ามุ่งเป้าทำการตลาดกับเด็กและเยาวชน โดยใช้การแต่งกลิ่นและรส มีมากถึง 16,000 รูปแบบ และบุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นประตูให้เด็กและเยาวชนสู่ยาเสพติดชนิดอื่นๆจึงเป็นเหตุให้ภาครัฐมุ่งเน้นปราบปราบการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า . พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ให้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ให้ทำการสืบสวนผู้ที่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อทำการกวดขันบังคับใช้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง . ต่อมา พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ทำการสืบสวนตามสั่งการของผู้บังคับบัญชา จนทราบว่า นายเกรียงไกร (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี มีพฤติการณ์จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทางสื่อสังคมออนไลน์ จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น ต่อศาลอาญาธนบุรี เพื่อทำการตรวจค้น ณ สถานที่ซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้า ของนายเกรียงไกร ซึ่งมีไว้เพื่อจำหน่ายทางสื่อสังคมออนไลน์ . จนกระทั่งวันที่ 5 มี.ค.67 เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ภาสกร กันประดับ, พ.ต.ท.รังสรรค์ แสงรูจี, พ.ต.ต.สันติ ชื่นชม สว.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1, ร.ต.อ.ฤทธิไกร ขุนท้าวเทียม รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1, ร.ต.ท.สนทยา มะลิพรม รอง สว.(สส.) กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 และ จ.ส.ต.พงศกร คำวิชัย ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้ทำการตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ที่ 73/2567 ลงวันที่ 4 มี.ค.67 ณ บ้านพักหลังหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 15 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กทม. ผลการตรวจค้นพบของกลางบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายเกรียงไกร ในฐานความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” . เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เพิ่งเริ่มซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาขายได้ 2 เดือน โดยขายผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อดำเนินการตามกฎหาย และจะเร่งขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
