นนทบุรี นักข่าวรู้ทันแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ หลังอ้างตัวเป็นหลานของเพื่อนให้โอนเงิน
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้17ก.พ.67 นายสมนึก ลือประดิษฐ ผู้สื่อข่าวพิเศษ ช่อง7HD.ประจำจังหวัดนนทบุรี ได้เปิดเผยว่า ได้มีโทรศัพท์หมายเลข 096-3307858 โทรเข้ามาหาตนเองพร้อมทั้งแอบอ้างตัวเองว่าชื่อ น้องเหมียวซึ่งเป็นหลานสาวของนายพีระยศ เอี่ยมพึ่ง ผู้สื่อข่าว TPBS ประจำจังหวัดนนทบุรี เพื่อนสนิทของนายสมนึกที่ทำงานอยู่ในทีมผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนนท์ด้วยกัน โดยเสียงจากสายดังกล่าวเป็นเสียงผู้หญิง ที่อ้างตัวว่าเป็นหลานของนายพีระยศ ชื่อเหมียวหรือกมลวัน ใจปัดชา อายุ 27 ปี โดยปลายสายเสียงดังกล่าวได้เอ่ยปากขอยืมเงิน จำนวน 28,000บาท เพื่อที่จะไปชำระจ่ายค่าเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งมา โดยรับปากว่าจะรีบโอนเงินคืนให้ในวันเดียวกัน
โดยขณะสนทนาอยู่นั้น นายสมนึกได้บันทึกภาพและเสียงขณะพูดคุยอยู่กับปลายสาย และเริ่มมั่นใจว่าน่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปัจจุบัน มักสร้างความเดือดร้อน ให้กับสุจริตชนในแต่ละวันมากมายจนเป็นที่หวาดระแวงวิตกไปกันแทบทุกครัวเรือน ไม่เว้นว่าจะอาชีพไหนก็ยังพลาดพลั้ง เสียท่าจนต้องสูญเสียเงินกันจำนวนมาก
เมื่อแน่ใจแล้วว่า ตนเองกำลังจะถูกหลอกแน่แล้วจากแก็งค์คอลเซ็นเตอร์แสบแก๊งค์นี้ จึงได้พยามหลอกล่อและไม่โอนเงินจำนวนดังกล่าว โดยถามถึงชื่อจริงของ น้องเหมียวซึ่งตนเองมั่นใจว่าแก๊งคอลน่าจะไม่มีวันรู้ ทำให้เสียงผู้หญิงดังกล่าวเริ่มมีอารมณ์และเสียงแข็งขึ้นพร้อมทั้งบอกกลับมาว่าไม่ไว้ใจหรือไง ไม่ได้ให้โอนเข้าชื่อตน แต่ให้โอนจ่ายให้ทางร้านเลย ซึ่งนายสมนึกก็ปฎิเสธทำให้เสียงหญิงดังกล่าวเริ่มรู้แน่แล้วว่าจะไม่ได้เงินจึงตัดวางสายไปในทันที
จึงอยากฝากถึงประชาชว่า ปัจจุบันแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ได้สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งมาในรูปแบบต่างๆนาๆที่จะหลอกเหยื่อ เพื่อให้ได้เงิน ควรเช็คข้อมูลให้ละเอียดและหากไม่จำเป็นไม่ควรโอนเงินโดยเด็ดขาดไม่ว่าแก็งค์คอลเซ็นเตอร์จะอ้างเหตุผลในรูปแบบใดก็ตาม
ต่อมานายพีระยศ เอี่ยมพึ่ง ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสประจำจังหวัดนนทบุรี ทราบเรื่อง และรู้สึกเป็นห่วง กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงได้พาตัวนางสาว กมลวัน ใจปัด ชา อายุ 27 ปี หลานสาว เดินทางมาพบ กับนายสมนึก และ ให้น้องเหมียว ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ตัวน้องเหมียว ไม่ได้โทรไป และไม่มีเบอร์โทรของ พี่ๆในกลุ่มสื่อมวลชน ปกติแล้วจะใช้ ช่องทางการติดต่อโดยการโทร Line หลังทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากน้า จึงรีบเดินทางมา ชี้แจงเรื่องราวดังกล่าว และแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ใช่ ตนเอง อย่างแน่นอน พร้อมทั้งฝาก เตือน ให้ระวังกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้เช็คข้อมูล ชื่อจริงนามสกุลจริง หลักฐานอื่นๆ และอย่าได้หลงเชื่อ โอนเงินแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีการพัฒนา มาในทุกรูปแบบ เพื่อที่จะ หลอกให้โอนเงินซึ่งในแต่ละวัน มีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความ เป็นจำนวนมาก
