ตำรวจท่องเที่ยวพร้อมดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ ประสานภาคีเครือข่าย สร้างชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 25 ธ.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ ผบก.อก.บช.ทท. พ.ต.อ.สุรชัช สุวรรณศรี ผกก.ฝอ.1 บช.ทท. พ.ต.อ.รัชพล รุ่งกิตติวรกุล ผกก.ฝอ.2 บช.ทท. พ.ต.อ.มิลิน เพียรช่าง ผกก.ศรก.บก.ทท.1 ร่วมกันแถลงมาตรการการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 พล.ต.ท.ศักย์ศิรา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งรัดสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวโดยได้มีการอนุมัติมาตรการฟรีวีช่าให้กับนักท่องเที่ยวหลายประเทศ และมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวกำหนดและดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้ใจให้แก่นักท่องเที่ยวซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้กำหนดให้การดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในนโยบายเน้นหนัก พร้อมมีข้อสั่งการสำคัญคือ การเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว โดยให้มีการบูรณาการการทำงานกันระหว่างตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจท้องที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นหนักในการอำนวยความสะดวก และการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอย่างมีมาตรฐานและเป็นสากลด้วย ขณะเดียวกันทาง บช.ทท.ได้กำหนดมาตรการสอดรับกับนโยบายรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีมาตรการ 3 เรื่องประกอบไปด้วย 1. การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้ปลอดภัย จัดทำ โครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง(Strong Tourism Community : S.T.C ) นำร่อง 10 แห่งที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น คือ 1. ถนนข้าวสาร กทม. 2. ซอยคาวบอย กทม. 3. ถนนคนเดินพัทยา ชลบุรี 4. ชุมชนวัดไชยวัฒนาราม อยุธยา 5. ถนนคนเดินเชียงคาน เลย . ถนนคนเดินประตูท่าแพ เชียงใหม่ 7. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร พิษณุโลก 8. ชุมชนฟิชเชอร์แมน เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี 9. ถนนคนเดินบางลา ภูเก็ตและ 10. ถนนเสน่หาอนุสรณ์ หาดใหญ่ สงขลา ซึ่งเป็นการประยุกต์แนวทางของโครงการ Smart Safety Zone มาปรับใช้ ให้ตำรวจท่องเที่ยวเป็นผู้ขับเคลื่อนและประสานงานสร้างภาคีเครือข่าย หารือแนวทางและดำเนินการร่วมกัน โดยมีตำรวจท่องเที่ยวเป็นศูนย์กลาง พร้อมทั้งจัดให้มีอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวอย่างน้อย 20 นาย ต่อชุมชน ร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว 2. จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ( Command and ControlOperation Center : CCOC) โดยให้ตำรวจภูธรจังหวัดทุกจังหวัดร่วมบูรณาการดูแลความปลอดภัยสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักของนักท่องเที่ยว ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยในกรอบของ CCOC นี้ ตำรวจท่องเที่ยวยังได้พัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุสายด่วน 1155 ของกองบัญชาการตำรวจเที่ยว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ล่ามแปลภาษาถึง 5 ภาษา ประกอบไปด้วย จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเชีย ทำหน้าที่รับแจ้งเหตุและให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถรวมสายกับศูนย์รับแจ้งเหตุ 191และสายด่วน 1669 เพื่อช่วยประสานงานให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น 3.การเป็นฝ่ายประสานงานให้กับหน่วยงานต่างประเทศ / และสถานเอกอัครราชทูตต่างประ ไทย โดยฝ่ายต่างประเทศ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มีช่องทางติดต่อประสานงานกับสถานทูตต่างๆ ฝ่ายต่างประเทศจะทำหน้าที่ประสานข้อมูลเพื่ออัพเดทสถานการณ์ที่ควรทราบ และแจ้งเหตุสำคัญเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว รวมถึงรับคำขอความช่วยเหลือจากสถานทูต จนเป็นที่ไว้วางใจ ทั้งนี้ สถานทูตเองก็มีส่วนสำคัญในการช่วยสื่อสารให้ข้อมูลที่ถูกต้องถือเป็นการทำงานร่วมกันในมิติระหว่างประเทศด้วยสำหรับการดำเนินการเพื่อรองรับการขยายเวลาเปิดสถานบริการใน 5 จังหวัดนั้น กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มีสั่งการให้หน่วยในสังกัด ประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการ ภาคการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว ให้ทราบและปฏิบัติตามกฎหมาย เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ และอุปกรณ์ รวมถึงศูนย์รับแจ้งเหตุ1155 ในฐานะศูนย์ประสานงาน เพิ่มความถี่ในการตรวจป้องกันเหตุ และจัดให้มีการอบรมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในทั้ง 5 จังหวัด รวม 500 คน เพื่อร่วมดูแลรักษาความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ในส่วนของเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยังได้จัดทำโครงการพิเศษเพื่อเป็นของขวัญให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชน คือ 1. “โครงการ 10 แหล่งท่องเที่ยวปลอดภัย” เพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยใน 10 แหล่งท่องเที่ยวตามโครงการ S.T.C. นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้หน่วยในสังกัดในพื้นที่จัดงาน Countdown ขนาดใหญ่ทั่วประเทศ รวม 20 แห่ง จัดกำลังพล ยานพาหนะและอุปกรณ์ ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดห้วงการจัดงานเพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนได้สนุกสนานกับเทศกาลพร้อมการดูแลปลอดภัยในระดับสูงสุด 2. “โครงการ We Smile for Your Smile” ตำรวจท่องเที่ยวพร้อมบริการด้วยรอยยิ้ม เพื่อรอยยิ้มของคุณ ซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์ของตำรวจท่องเที่ยวตามหลัก SSR – Smart บุคลิกดี Smile – มีจิตบริการ Reliable – สร้างความไว้ใจ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับประเทศ ทั้งนี้ทาง ผบช.ทท. ได้พาสื่อมวลชนเดินชมห้องศูนย์รับแจ้งเหตุ สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น M ภายในกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ คอยรับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับสามารถสื่อสาร ได้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวม กว่า 5 ภาษา อาทิ เกาหลี ,อังกฤษ ,จีน ,ญี่ปุ่น ,รัสเซีย และมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตำรวจท้องที่ และแอปพลิเคชั่น Police I lert You เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ติดต่อเข้ามาขอความช่วยเหลือ //////









