เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 66 ที่สภ.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ธนวัฒน์ ชีวิตโสภณ สว.(สอบสวน) สภ.บางกรวย ได้จับกุมตัวนายปรีดา พรรณนิยม อายุ 33 ปี ส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางใหญ่ ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.370/2566 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดที่สมคบนั้นและร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” หลังนายปรีดา พรรณนิยม ได้เข้าแจ้งความกับส.ต.ต.พิทักษ์ โพยมชัชวาล ผบ.หมู่.คฝ.กก.สส.ภจว.นนทบุรี ว่าถูกมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บอกให้โหลดแอปพลิเคชั่น สูญเงินไปกว่า 10,000 บาท โดยคิดไม่ถึงว่าตำรวจจะรู้ว่ามีหมายจับของสภ.บางใหญ่ จากที่เป็นผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง
จากการสอบถาม ส.ต.ต.พิทักษ์ โพยมชัชวาล ผบ.หมู่.คฝ.กก.สส.ภจว.นนทบุรี เล่าว่า เหตุเกิดประมาณช่วง 5 โมงเย็น มีประชาชนเข้ามาแจ้งความ 2 คน เรื่องฉ้อโกงออนไลน์ แอบอ้างเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บอกให้ผู้เสียหายโหลดแอปพลิเคชั่นและทำตามขั้นตอน ทำให้เงินในบัญชีโดนดูดไปประมาณ 10,000 บาท ตนจึงขอบัตรประชาชนเพื่อเสียบเข้าเครื่องเพื่อดูข้อมูลแต่ไม่อ่านผล ตนจึงค้นทะเบียนราษฎรตามเลขบัตรประชาชน ทำให้พบว่าผู้เสียหายรายนี้มีหมายจับติดตัว ที่สภ.บางใหญ่ คดีสมคบคิดเรื่องยาเสพติด ตนจึงนำบัตรประชาชนเสียบเข้าเครื่องอีกครั้ง และแกล้งชวนคุย ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำและโทรหาสารวัตรเพื่อแจ้งข้อมูล จากนั้นสารวัตรได้เดินทางมาตรวจสอบ โดยระหว่างนั้นได้พยายามชวนให้ผู้เสียหายที่มีหมายจับรายนี้มองกล้องวงจรปิด ก่อนแจ้งให้สายป้องกันปราบปรามเข้ามาควบคุมตัว ผู้เสียหายค่อนข้างมีพิรุจ อยู่ไม่นิ่งและสั่น ไม่มองหน้า พยายามก้มหน้าตลอด ตนสังเกตุเห็นผู้เสียหายเหงือกสีดำ ฟันไม่ครบ ตนจึงสงสัยว่าผู้เสียหายรายนี้เล่นยา เพราะอาการจำพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของคนที่เล่นยา จากนั้นจึงทำการค้นตัว โดยผู้เสียหายมีความสมัครใจและตนได้แจ้งสิทธิเพื่อควบคุมตัว ส่วนเพื่อนที่มาแจ้งความด้วยได้ปล่อยตัวไป เพราะตรวจสอบประวัติแล้วไม่มีคดีติดตัว ซึ่งตอนนี้ผู้เสียหายยังให้การปฏิเสธและขอติดต่อญาติ แสดงท่าทีว่าไม่ได้ทำ เปลี่ยนจากผู้เสียหายเป็นผู้ต้องหาซะเอง
พ.ต.ต.ธนวัฒน์ ชีวิตโสภณ สว.(สอบสวน) สภ.บางกรวย กล่าวว่า ขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่คดีสอบสวนร้อยเวรจราจรอยู่ ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ของคดีฉ้อโกงทรัพย์จากแอปดูดเงิน สูญเงินไปพอสมควร จากนั้นได้มาแจ้งความกับส.ต.ต.พิทักษ์ โพยมชัชวาล ผบ.หมู่.คฝ.กก.สส.ภจว.นนทบุรี ซึ่งได้สอบถามข้อมูลแล้วเห็นท่าทีผู้เสียหายมีพิรุจ ตามลักษณะโจร จึงได้ขอบัตรประชาชนและตรวจสอบประวัติอาชญกรรม จึงพบว่าผู้เสียหายที่มาแจ้งความมีหมายจับอยู่ ส.ต.ต.พิทักษ์จึงได้แจ้งตนในฐานะผู้บังคับบัญชา หลังจากตนได้รับแจ้งจึง ตรวจสอบและเช็คว่าหมายจับยังมีผลบังคับใช้อยู่ และ ผู้ต้องหายังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน ตนจึงตรวจสอบไปยังโรงพักต้นสังกัดที่สภ.บางใหญ่ ปรากฎว่าหมายจับเพิ่งออกเมื่อเดือนมิถุนายน จากนั้นจึงแจ้งชุดป้องกันปราบปรามสภ.บางกรวย เข้าควบคุมเรียบร้อยด้วยดี ขั้นตอนในการเข้าจับกุมเป็นไปตามกฏหมายทุกอย่าง มีการบันทึกวิดีโอและแจ้งสิทธิผู้ต้องหา ทางผู้ต้องหายังมึนงงอยู่ว่าตนเองมีหมายจับได้อย่างไร และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตนถือว่าส.ต.ต.พิทักษ์มีไหวพริบดี ในส่วนของคดีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นข้อกล่าวหามีโทษที่ร้ายแรง และเป็นบุคคลตามหมายจับสำคัญที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการตัวเพื่อไปดำเนินคดียาเสพติด ในการที่ส.ต.ต.พิทักษ์ มีไหลพริบปฏิภาณและสังเกตพฤติการณ์ พฤติกรรมของผู้ที่ต้องสงสัยเป็นผู้ต้องหา ถือว่ามี วิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างเต็มตัว 100% มีสติสัมปชัญญะไม่ตื่นเต้นตื่นตัว รีบรายงานผู้บังคับบัญชา และตีถ่วงเวลาให้ชุดจับกุมสามารถจับกุมได้ ผู้ต้องหาโดนจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดที่สมคบนั้นและร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ถือว่าเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และร้ายแรง จากการปฏิบัติหน้าที่มายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เหมือนการเข้าถ้ำเสือ
