“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ” หารือรัฐมนตรีกระทรวงกิจการสังคมและตรวจคนเข้าเมืองย่างกุ้ง การช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล้าก์ก่ายกลับประเทศไทยคืบหน้าในทางที่ดี
. เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พร้อมด้วยกงสุลไทย ณ กรุงย่างกุ้ง เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. และผู้ช่วยทูตตำรวจไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เข้าพบหารือกับนายหม่อง หม่อง ทาน รัฐมนตรีกระทรวงกิจการสังคมและตรวจคนเข้าเมืองย่างกุ้ง ณ ที่ทำการฯ เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ที่เมืองเล้าก์ก่าย รัฐฉาน ประเทศเมียนมา กลับประเทศไทยโดยปลอดภัย ซึ่งการประสานความร่วมมือมีความคืบหน้าไปมาก . พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ เปิดเผยว่าจากการที่ทางไทยได้ร้องขอในการช่วยเหลือคนไทยนี้ ทางการเมียนมาแจ้งว่า คนไทยทั้ง 162 คน ที่เมืองเล้าก์ก่าย ซึ่งอยู่ในความดูแลของทางการเมียนมาแล้วนั้น เข้าเมืองมาผิดกฎหมายทั้งหมด แต่เห็นแก่ความร่วมมืออันดีระหว่างกันที่ผ่านมา ทั้ง ตม.ไทย และ ตม.เมียนมา ทำให้ทางการเมียนมาจะไม่ดำเนินคดีตามกฎหมายเข้าเมืองกับคนไทยทั้ง 162 คน ที่เมืองเล้าก์ก่าย และจะเร่งรัดส่งกลับประเทศไทยให้เร็วที่สุด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางการเมียนมาก็จะมีการประชุมหารือกันระหว่าง ตม.เมียนมา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมียนมา เกี่ยวกับกระบวนการส่งกลับคนไทยทั้งหมด และการรักษาความปลอดภัยในเส้นทางส่งกลับเนื่องจากยังมีการสู้รบกันอยู่ ก่อนที่จะมีขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยต่อไป อีกทั้งการมาเข้าพบหารือครั้งนี้ ยังได้ร้องขอว่าคนไทยที่เมืองเล้าก์ก่ายนั้น มีทั้งคนไทยตั้งครรภ์ และเจ็บป่วย ขอให้ทางการเมียนมาช่วยดูแลรักษาให้ด้วย ซึ่งทางการเมียนมารับปากรับคำเป็นอย่างดีในการที่จะให้การดูแล . รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ที่เข้าพบพูดคุยด้วยตนเองนั้น ยังเป็นการเร่งรัดการดำเนินการกับทางการเมียนมาไปในตัว และย้ำความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนว่าเราพร้อมจะประสานงานกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การช่วยเหลือคนไทยเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และปลอดภัยที่สุด รวมทั้งได้มีการแลกหมายเลขโทรศัพท์มือถือไว้ติดต่อโดยตรงระหว่างกันกับนายหม่อง หม่อง ทาน ทั้งปัญหาการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อร่วมมือกันรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศให้กับประชาชนทั้งสองประเทศได้อยู่กันอย่างสงบสุขต่อไป
