นนทบุรี คลิป สาวโวยลั่นโรงพักอ้างแท็กซี่กักขัง หลังตัวเองไม่จ่ายค่าโดยสารราคา 79 บาท ตร.ค้นตัวพบกาวกระป๋องเพียบ
เมื่อเวลา 16.00น. วันที่ 25 ต.ค.66 ที่ สภ.ปากเกร็ด ภายในห้องแจ้งความ นายเอ(นามสมมุติ) โชเฟอร์แท๊กซี่ ได้เดินทางเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด ว่าถูกผู้โดยสารเป็นหญิง 1 ราย ไม่จ่ายค่าโดยสารราคา 79 บาท จึงล็อคประตูรถแท็กซี่ก่อนขับพาผู้โดยสารรายดังกล่าวมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ปากเกร็ด ในขณะที่ถึงโรงพักกำลังแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ผู้โดยสารหญิงรายดังกล่าว ที่กำลังนั่งอยู่หลังรถ ได้ปีนออกจากประตูฝั่งคนขับ และเดินออกมาโวยวายตั้งแต่หน้าโรงพักจนกระทั่งเข้าไปยันในห้องแจ้งความ ได้ปะทะคารมณ์กับโชว์เฟอร์โดยกล่าวหาว่า โชว์เฟอร์ล็อคประตูกักขังหน่วงเหนี่ยวไม่ให้ออกจากรถ โดยมีการพูดจาโวยวายเสียงดังต่อหน้าพนักงานสอบสวนและประชาชนที่เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ในห้องแจ้งความ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวจึงเข้าไปพูดคุยเจรจากับทั้ง 2 ฝ่าย มีการสอบถามโชเฟอร์แท็กซี่ ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้โดยสารได้เรียกรถเพื่อใช้บริการ แต่ถึงจุดหมาย บ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเงินค่าโดยสารราคา 79 บาท และมีการพูดจาโวยวายตลอดทั้งทาง จึงได้ล็อคประตูไว้เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารรายดังกล่าวหลบหนี ก่อนขับมาแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด
ทางด้านผู้โดยสารหญิง ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความโมโห ว่า รู้สึกไม่พอใจที่ถูกโชเฟอร์แท๊กซี่ล็อครถไม่ให้ออก จึงจะแจ้งความโชเฟอร์ซี่กลับว่ากักขังหน่วงเหนี่ยว
ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ไกล่เกลี่ยจนกระทั่งผู้โดยสารรายดังกล่าวได้ชดใช้ค่าโดยสารจำนวน 79 บาท ทางโชว์เฟอร์แท็กซี่หลังจากที่ได้รับเงินแล้วจึงไม่ได้ติดใจเอาความก่อนเดินทางกลับทันที ส่วนทางด้านผู้โดยสารมีท่าทีพิรุธ และพูดจาเสียงดังโวยวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจกระเป๋าและถุงพลาสติกที่ผู้โดยสารนำมาด้วย พบว่าภายในกระเป๋ามี หมอน ผ้าห่ม และเสื้อผ้า และถุงพลาสติก 1 ถุง ภายในถุงพบว่ามีกระป๋องกาวจำนวน 8 กระป๋อง และเจลล้างมือแอลกอฮอล์ 1 ขวด โดยผู้โดยสารรายดังกล่าวอ้างว่าที่พกกระป๋องกาวเพราะทำงานก่อสร้าง และจะลุกหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กักตัวไว้ และสอบถามชื่อจริงนามสกุลแต่ปรากฏว่าผู้โดยสารรายดังกล่าวอ้างว่าจำชื่อจริงนามสกุลตัวเองไม่ได้ และอ้างว่าถูกนายจ้างตั้งชื่อให้ ถูกเลิกจ้างงานมานานแล้ว ในกรณีดังกล่าวทางผู้เสียหายรับเงินและไม่ติดใจเอาความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปล่อยตัวกลับบ้าน แต่ขณะหญิงสาวรายดังกล่าวเดินออกจากห้องแจ้งความได้พูดต่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ารังแกประชาชนตลอดทั้งทางจนถึงถนนหน้าโรงพัก
