นนทบุรี วงจรปิด นศ.โอด คนงานต่างด้าวโดดลงจากรถกระบะโดนจยย.ล้ม ปลายนิ้วขาด ร้องกลัวสอบตร.ไม่ได้
จากกรณีเพจ Survive - สายไหมต้องรอด โพสต์คลิปวงจรปิดและระบุข้อความว่า “#นนทบุรี แอดคะ คือเรื่องราวมันเกิดขึ้นกับลูกสาวเรา ในวันที่ 13 กันยน 2566 ที่ผ่านมา ลูกสาวขับรถมอเตอร์ไซค์กำบังจะกลับบ้าน ระหว่างทาง โดยมาถึงถนนจันทร์ทองเอี่ยม บางบัวทอง ซึ่งไม่ไกลจากบ้านก้จะถึงบ้านแล้ว (น้องเลิกเรียน) แต่พอขับมาถึงถนนจันทร์ทองเอี่ยมซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ น้องขับมาตามถนนปกติ ก้อมีรถกระบะซึ่งมีคนงานนั่งท้ายมา ประมาณ 4-5 คน มาจอดข้างทาง จู่ๆคนที่นั่งท้ายกระบะได้กระโดดลงจากรถโดยไม่มองรถที่ขับตามมาด้านหลัง ทำให้ไปโดนแขนและแฮนด์ด้านซ้ายน้องทำให้น้องเสียหลักรถคว่ำได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ร้อยเวรคนรับเรื่องก้อไม่เคยโทมาหาแม่เลยว่าเหตุการณ์นี้ไปถึงไหนต้องทำยังไง วันนี้ก้อไปหาร้อยเวรมาก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ร้อยเวรบอกว่าติดต่อทางคู่กรณีไปแล้วแต่เขาไม่ยอมมาพบจะให้ทำยังไง ตำรวจตอบมาแบบนี้แม่ต้องทำยังไงดีคะ แม่หมดที่พึ่งแล้ว แม่เหลือลูกแค่คนเดียว ลูกชายคนโตแม่ก้อถูกชนแล้วหนีเมื่อปี 62 ลูกแม่เสียชีวิตคาที่ แม่ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นอีกช่วยแม่ด้วยนะคะ #ฝากท่าน ผกก.สภ.บางบัวทอง และ พี่ๆฝ่ายสืบสวน ช่วยผู้เสียหายด้วยนะคะ เหลือลูกคนเดียวแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 1”
กล้องวงจรปิดวันที่ 12 ต.ค. 66 เวลา 18.55 น. จับภาพบริเวณหน้าร้านขายของชำแห่งหนึ่ง แถวถ.จันทร์ทองเอี่ยม มีรถกระบะสีเขียว ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ขับมาจอดก่อนถึงร้านชำ มีคนขับพร้อมคนนั่งข้างหน้า จำนวน 2 คน และคนงานอีกจำนวน 5 คน นั่งท้ายรถกระบะ ก่อนจะกระโดดลงจากรถเพื่อไปร้านขายของชำ จังหวะที่คนงาน 1 ใน 5 นั่งด้านขวา มีอายุ ผมยาว ใส่เสื้อแขนยาวสีม่วง กางเกงขาสามส่วมสีกรมท่า กระโดดลงจากรถ มีรถจยย.ของผู้บาดเจ็บขับขี่มาพอดี ทำให้คนงานที่กระโดดลงมาไปโดนแฮนด์รถจยย.และแขนของผู้บาดเจ็บ ทำให้ผู้บาดเจ็บรถเสียหลักล้มคว่ำ กระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร จากนั้นคนงานดังกล่าวก็เดินไปซื้อเหล้าที่ร้านของชำโดยไม่ได้ตกใจหรือเข้าไปช่วยเหลือแต่อย่างใด ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะซื้อเหล้าเสร็จและเดินย้อนกลับมาบริเวณรถและหายไปจากกล้องวงจรปิด ไม่ได้ขึ้นรถกระบะคันดังกล่าว ส่วนผู้บาดเจ็บได้มีพลเมืองดีและรถกระบะคันสีดำที่ขับตามมาด้านหลัง เบรคกระทันหันเกือบชนซ้ำ ลงจากรถเข้าช่วยเหลือและเรียกรถกู้ชีพนำตัวส่งโรงพยาบาล
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 20 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีกับ น.ส.เบญญาภา แสนมงคล อายุ 19 ปี (ผู้บาดเจ็บ) นักศึกษาวิทยาลัยตั้งตรงจิตรบริหารธุรกิจ สาขาการท่องเที่ยว ชั้นปวส. ปีที่ 2 ได้เล่าเหตุการณ์ว่า วันเกิดเหตุตนเพิ่งเลิกเรียนกำลังจะกลับบ้าน ทุกวันจะใช้เส้นทางนั้นในการเดินทางอยู่แล้ว พอมาถึงจุดเกิดเหตุมีคนงานกระโดดลงมาจากท้ายรถกระบะเพื่อจะไปซื้อของในร้านค้า จำนวนคนในรถกระบะวันเกิดเหตุมีประมาณ 4-5 คน คู่กรณีกระโดดลงมาโดนแฮนด์รถและช่วงแขน ทำให้รถสะบัดขวาและมาซ้ายก่อนจะล้มลง โชคดีรถที่ตามมาข้างหลังเบรคทัน คาดว่าแผลที่นิ้วน่าจะขูดกับพื้น เพราะตัวตนลอยข้ามรถจักรยานยนต์แล้วกลิ้งลงไปกับพื้น ไม่มีคู่กรณีเดินมาดูตนซักนิดมีแต่ชาวบ้านแถวนั้นเดินมาช่วยเหลือ โทรเรียกรถพยาบาลมารับ หลังเกิดเหตุรอบแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดเจอคู่กรณีให้แต่ไม่มีใครมา รอบสองก็ยังเป็นแบบเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าได้มีการโทรตามคู่กรณีแล้วแต่ไม่มา ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องส่งเรื่องฟ้องศาลอย่างเดียว ภาพจากกล้องตอนเกิดเหตุตนนอนเจ็บอยู่ คู่กรณียังไปซื้อเหล้าและเดินหายออกไปจากกล้อง ฝากถึงคู่กรณีอยากให้ออกมาเจรจากันว่าจะมารับผิดชอบอย่างไร เพราะวันนั้นตนเองก็เสียหายเรื่องเรียน นิ้วบาดเจ็บ และรถเสียหายด้วย ตอนนี้กังวลเพราะตั้งใจจะไปสอบตำรวจ กลัวเสียโอกาสเพราะตนเสียหายอวัยวะในร่างกายไป กลัวว่าจะสอบไม่ได้ การสอบเข้าราชการต้องตรวจร่างกาย สอบถามมาแล้วตนต้องไปโรงพยาบาลทหาร เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ทุพพลภาพ ตนอยากสอบอยากจะเป็นตำรวจ กลัวว่าจะสอบไม่ได้
นายลลละชัย ทองโปร่ง อายุ 45 ปี (พ่อผู้บาดเจ็บ) อาชีพขับไรเดอร์ Lalamove กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไปดูลูกที่โรงพยาบาลแล้วคุณแม่บอกให้มาที่เกิดเหตุ มาถึงตนไม่เจอคู่กรณีแล้ว ถามคนแถวนั้น ๆ แจ้งว่าคู่กรณีน่าจะไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว จึงตามไปที่โรงพักก็ไม่เจอ ส่วนร้อยเวรก็ออกเวรไปแล้วเช่นกัน ได้เจอคู่กรณีอีกครั้งหลังจากเกิดเหตุมาแล้ว 2 สัปดาห์ ตนคอยดูกรณีตลอด เพราะตนออกไปทำงานตั้งแต่ประมาณ 07:00-17:00 น. เหตุเกิดประมาณ 19:00 น. ร้านค้าบอกว่าคู่กรณีเลิกงานมาจะแวะร้านค้าทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น เพื่อซื้อเครื่องดื่ม ตนได้เจอกับเจ้าของรถกระบะ เบื้องต้นได้เปิดคลิปให้ดูและสอบถามว่าสามารถติดต่อคู่กรณีที่กระโดดลงจากรถได้หรือไม่ เจ้าของรถไม่สามารถตามคู่กรณีให้ได้ เพราะไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนแต่ได้ก็ข้อมูลมาเยอะ เบื้องต้นที่ให้ข้อมูลกับทางสืบสวน เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าคนกระโดดเป็นแรงงานต่างด้าว ไม่มีชื่อ ไม่มีบัตร หนีไปตั้งแต่ช่วงวันที่ 13 ก.ย. หลังวันเกิดเหตุ ตนเองยังไม่มีโอกาสได้เจอคนขับรถในวันนั้น เจอแต่เจ้าของรถที่จ้างให้คนขับในวันเกิดเหตุขับแทน ซึ่งอยากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบ กลัวลูกจะเสียโอกาสในเรื่องการสอบตำรวจ และดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งค่าซ่อมรถ ค่าทำแผล รวมถึงความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ ที่สำคัญเลยคือเวลา ช่วงแรกต้องพาลูกไปล้างแผลทุกวัน จะจ่ายเป็นเงินก้อนทั้งหมดหรือแบ่งจ่ายเป็นรายเดือนก็ยินดีรับทั้งหมด อยากให้เข้ามาพูดคุยกัน
