วันนี้(วันศุกร์ ที่ 13 ต.ค. 66) เวลา 12.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ คำปาเชื้อ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ทินกร รังรื่น รรท.ผกก.สภ.ดอนตูม พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.กก.1บก.สส.ภ.7 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงความคืบหน้าคดี ผลการจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ เพิ่มเติมจำนวน 5 ราย รวมทั้งสิ้น จำนวน 7 ราย ได้แก่ 1.นาย เบ็น เหล่างาม อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 538/2566 โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และ ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน” 2.นาย สรศักดิ์ เหล่างาม อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 536/2566 3.นาย ดนุชเดช ฉายทองคำ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 537/2566 4.นาย อวิรุทธ์ อายุเคน อายุ 41 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 539/2566 5.นาย ธวัชชัย เหล่างาม อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 540/2566 6.น.ส. สุพรรษา ม่วงวัดท่า อายุ 35 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 541/2566 7.น.ส. ศุภราลักษณ์ ห้วยหงส์ทอง อายุ 35 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 542/2566 โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำผิดหรือผู้ต้องหากระทำผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษหรือไม่ให้ต้องโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” พร้อมของกลางจำนวน 11 รายการ ได้แก่ 1.รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กล3000 นครปฐม (ที่ใช้ในการหลบหนี) 1 คัน 2.อาวุธปืน Glock 26 ขนาด 9 มม. หมายเลขทะเบียนปืน กท 5248599 หมายเลขประจำปืน NUK109 จำนวน 1 กระบอก 3 .อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Colt หมายเลขประจำตัวปืน FG75018 หมายเลขทะเบียนปืน นฐ 1/15204 จำนวน 1 กระบอก 4. อาวุธปืนยาว ชนิดเดี่ยวลูกกรด ขนาด .22 ยี่ห้อ BROWNING หมายเลขประจำตัวปืน 655PP05031 หมายเลขทะเบียนปืน กท3851850 จำนวน 1 กระบอก 5. อาวุธปืนยาว ชนิด เดี่ยวไรเฟิล ขนาด .223 (5.56 มม.) ยี่ห้อ REMINGTON หมายเลขประจำตัวปืน 7698941 หมายเลขทะเบียนปืน กท3857859 6. กระสุนปืน ขนาด 9 จำนวน 50 นัด 7. กระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 100 นัด 8. กระสุนปืน ขนาด 38 SUPER จำนวน 10 นัด 9. กระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 21 นัด 10. กระสุนปืน ขนาด 380 จำนวน 1 นัด 11. อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ SIG SAUER หมายเลขประจำตัวปืน 52E090617 หมายเลขทะเบียนปืน กท6406742 จำนวน 1 กระบอก (อาวุธที่ใช้ก่อเหตุ) พฤติการณ์แห่งคดี ตามที่เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2566 เวลา ประมาณ 17.50 น. สภ.ดอนตูม ได้รับแจ้งเหตุ เกิดเหตุทะเลาะวิวาทภายในสนามชนไก่วรวิช (ซึ่งสนามชนไก่วรวิชได้รับใบอนุญาตเลขที่ 57/2566ออกให้ ณ อำเภอดอนตูม) มีผู้ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ และต่อมาเสียชีวิตที่ ร.พ.ดอนตูม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวสามารถยืนยันผู้กระทำความผิดจำนวน 3 ราย และขออนุมัติหมายจับได้แก่ นายเบ็นฯ, นาย สรศักดิ์ฯ และนายดนุชเดชฯ จากนั้นวันที่ 10 ต.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายสรศักดิ์ฯ และนายดนุชเดชฯ นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ดอนตูม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งได้แถลงผลการจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่านายอวิรุทธ์ อายุเคน, นายธวัชชัย เหล่างาม, น.ส.สุพรรษา ม่วงวัดท่า และ น.ส.ศุภราลักษณ์ ห้วยหงส์ทอง เป็นผู้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือนายเบ็นฯหลังจากก่อเหตุ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 รายต่อศาลจังหวัดนครปฐม ซึ่งศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติหมายจับที่ 539-542/2566 ลงวันที่ 12 ต.ค. 66 ต้องหาว่า “ร่วมกันช่วยผู้อื่นมีให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ช่อนเร้นเอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด” ในวันเดียวกัน นายธวัชชัย เหล่างาม, น.ส.สุพรรษา ม่วงวัดท่า,น.ส.ศุภราลักษณ์ ห้วยหงส์ทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่ล่ากดดันอย่างหนัก ได้เข้าแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงหมายจับ พร้อมควบคุมตัวและของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ดอนตูมดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งได้ติดตามได้จับกุมตัวนายอวิรุทธ์ อายุเคน ผู้ต้องหาตามหมายจับฯที่ 539/2566 ไล่ล่าติดตามนายอวิรุธ์ฯ จนพบตัวในพื้นที่ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม จึงแสดงหมายจับและควบคุมตัวนายอวิรุทธ์ฯได้ในบริเวณดังกล่าว นายอวิรุทธ์ฯได้นำตรวจค้นบ้านพัก พบของกลางรายการที่ 3-10 จึงตรวจยึดมาเพื่อทำการตรวจสอบ พร้อมควบคุมตัวและของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ดอนตูมดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาวัน13 ต.ค. 2566 เวลา 01.50 น. นาย เบ็นฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งถูกไล่ล่ากดดันค้นหาอย่างหนัก ได้เข้าแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นบ้านพัก พบอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ(ของกลางรายงานที่11) จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางในคดี ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ดอนตูมดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานเข้าในสำนวนให้รอบคอบ รัดกุม เพื่อสามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้อย่างแท้จริง อันจะสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม ตามคติที่ว่า “คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์“ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องตำรวจ ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ จนสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ด้วยความรวดเร็ว และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป ณ สภ.ดอนตูม ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม
