“กรมอุทยานฯร่วมกับตำรวจบก.ปทส.เกาะติดขบวนการลักลอบทำไม้มีค่า จับกุมผู้กระทำผิดในพื้นที่ภาคเหนือ”
วันนี้ 12 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า
ซึ่งได้สั่งการให้นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปราบปราม นายชัยชาญ ศรียงค์ หัวหน้าสำนักสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สปป.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.4 บก.ปทส.)
โดยได้ติดตามรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ต้องสงสัยหมายเลขทะเบียน 70-9153 นนทบุรี ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ซึ่งได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการขนไม้ประดู่แปรรูป จากบ้านดงเย็น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โดยใช้เส้นทาง อ.ดอยเต่า ผ่าน อ.ลี้ ไปส่งปลายทางที่ จ.หนองคาย จนกระทั่งเวลา 03.30 น. รถคันดังกล่าวได้ออกเดินทางจาก อ.อมก๋อย จึงได้ติดตามไปจนกระทั่งถึง อ.ดอยเต่า จึงได้แสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอเข้าตรวจค้นรถบรรทุก
จากการตรวจค้นปรากฏว่าพบการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ จึงได้ร่วมกันจับกุมตัวนายภาคภูมิ (ขอสงวนนามสกุล) อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ที่ 6 ต.แหลมทอง อ.ภัคดีชุมพล จ.ชัยภูมิ พร้อมรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-9153 นนทบุรี ตรวจค้นภายในรถบรรทุกพบของกลางเป็นไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 73 แผ่น และปมไม้ประดู่จำนวน 12 ปม ทราบว่าจะนำไปส่งในพื้นที่ จ. หนองคาย หลังจากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายอรรถพลฯ กล่าวต่อไปว่า การจับกุมดำเนินคดีผู้ต้องหารายดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมาจากข้อสั่งการของพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการกำชับให้ดำเนินการเกาะติดสถานการณ์ขบวนการลักลอบทำไม้โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ
กรมอุทยานแห่งชาติฯจึงได้มีการปรับกลยุทธ์ในการตรวจสอบติดตาม การวางสายข่าวเพื่อเกาะติดขบวนการลักลอบทำไม้ จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งจะมีการขยายผลเพื่อสืบสวนไปให้ถึงตัวผู้กระทำผิดรายใหญ่ ต่อไป
