เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว 1 ห้องนอน พบนาย วิรัตน์ คลธา อายุ 66ปี นางบัญญัติ คลธา อายุ 72 ปี สองสามีภรรยา อาชีพเก็บของเก่าขาย นางบัญญัติ คลธา เล่าว่า สามีของตนสติไม่ค่อยดี ซึ่งตนและสามีในแต่ละวันออกเก็บของเก่าขายหาเงินเลี้ยงซีพและหลานสาวพิการ ส่วนลูกสาวของตนทำงานชักรีดเสื้อผ้าเงินก็ไม่พอใช้ค่าใช้จ่ายในบ้านซึ่งบ้านก็ต้องผ่อนเดือนละ3000บาทและช่วงโควิดที่ผ่านมาทุกอย่างแย่ไปหมดติดโควิดกันทั้งบ้านไม่มีเงินลูกส่วของตนทำงานซักรีดก็แย่ไปด้วยเงินไม่มีส่งบ้านซึ่งบ้านก็จะโดนยึดทางกรมบังคับคดีส่งหนังสือมาที่บ้านตนและลูกสาวก็ไม่รู้จะทำยังไงทุกอย่างแย่ไปหมดทุกวันนี้ออกเก็บของเก่าขายซ้ำโดนหมากัดที่เท้าเป็นแผลต้องหาหมอที่ รพ.บางบัวทอง 2 สามีของตนก็ให้ตนนั้งรถที่เข็นเก็บของเก่าและเข็นพาตนไปหาหมอทำแผลที่ รพ.และในวันนี้ไปเก็บของเก่าไม่ได้เดินไม่ไหวเงินก็ไม่มีเหลือเงิน 20 บาทติดตัว
น.ส.อุไร คลธา อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว นางบัญญัติ คลธา เล่าว่ากล่าวว่า ตอนนี้พวกตนก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ไหน เพราะเอกสารกรมบังคับคดีมาแล้ว ซึ่งเขายังไม่แจ้งว่าจะมายึดวันไหน มันเป็นคดีแดง ตนจึงโทรไปหาเขาบอกเขาว่าตนไม่มีที่อยู่ ตนอยู่ที่นี้ตนไม่ได้หมายศาลอะไรเลย เขาก็บอกว่าอาจจะส่งไปที่บ้าน ตจว. แต่คนที่อยู่ตจว.ก็ไม่เห็นว่ามีเอกสารอะไรส่งมาถึงตน เขาก็เลยบอกตนว่าลองไปไกล่เกลี่ยกับธนาคารที่ขายให้ธนาคารบริหารสินทรัพย์ ตอนที่ตนซื้อตอนแรกตนส่งเดือนละ3,800 บาท ด้วยลูกป่ายตนต้องออกจากงานเพื่อไปดูแลลูก ตนก็ไม่มีรายได้ ตนจึงตัดสินใจขายของตามตลาดนัด บางครั้งตนก็ขายไม่ได้ก็มีเพราะด้วยเศรษฐกิจด้วยทำให้ขายของยาก ตนจึงไปเป็นลูกจ้างร้านซัก-รีด ก็ทำไปเรื่อยๆจนมีโควิดทำให้ลูกค้าไม่มาส่งผ้ามารีด ก็ขาดรายได้ ส่วนเรื่องบ้านที่จะโดนยึดตนก็ได้โทรไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็บอกให้ตนไปที่ ธนาคารบริหารสินทรัพย์ ตนก็ไม่ทราบว่าจะต้องมีเงินดาวไหม ก็ต้องรอคุยกันก่อน ตนก็ไม่เคยท้อแท้อะไรหาเงินให้ลูกได้ใช้ได้กิน จ่ายค่าน้ำค่าไฟบางทีไม่มีจ่ายเขาก็มายกหม้อของตนไปหลายครั้ง จนตนติดหนี้รายวัน ตนไปกู้มาตอนที่มีโควิดเพราะตนไปทำงานไม่ได้ลูกค้าไม่เอาผ้ามาส่ง แม่ก็เจ็บหัวเข่า อยากจะบอกแม่ว่า ถึงตนจะไม่มีเงินตนก็ไม่เคยคิดจะหนีไปกับลูก บางทีตนก็ท้อเพราะคนนู้นคนนี้พูดเวลาแม่คัดของเก่ามันเสียดังเขาก็พูด ตนก็ไม่อยากให้แม่ทำ แต่บางทีมันก็ลำบากทำอะไรก็ไม่ได้ตนก็เข้าใจพ่อกับแม่ออกเก็บของเก่าเพื่อช่วยหาเงินชื้อข้าวชื้อน้ำ ซึ่งทุกวันนี้ตนก็รับจ้างชักรีดที่บ้านเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวแต่เงินก็ไม่พอค่าใช้จ่ายสูงของก็แพงทุกอย่าง
