นนทบุรี วงจรปิดวินจยย.ถือคมแฝกบุกทำร้ายกระชากคอผู้หญิงกลางวันแสกเจ็บคู่ สาเหตุเรื่องออกตัว

นนทบุรี วงจรปิดวินจยย.ถือคมแฝกบุกทำร้ายกระชากคอผู้หญิงกลางวันแสกเจ็บคู่ สาเหตุเรื่องออกตัว
เมื่อเวลา 15.00น. วันที่ 3 ต.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2ราย มีผู้ชาย 1 ราย และผู้หญิง 1 ราย ที่บริเวณ ชุมชนซอยวัดช่องลม อ.ปากเกร็ด ต.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าระงับเหตุนำตัวทั้งสองฝั่งมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำและนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเวลา 14.19 น. วันที่ 3 ต.ค.66 จับภาพนายประธานสวมเสื้อวินจยย.ปรี่เข้ามากระชากคอ น.ส.รัตติกาลฯ สวมชุดนอนสีชมพู ลากไปสักระยะก่อนที่จะมีผู้ชายถอดเสื้อถือไม้ออกมาปกป้องผู้หญิงและวิ่งไล่นายประธานออกไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00น. วันที่ 3 ต.ค.66 ที่สภ.ปากเกร็ด พบนางชิม มงคลมิตร อายุ 43ปี มีรอยแผลที่หัว และ น.ส.รัตติกาล ทับทิมพู อายุ 26 ปี (ชุดนอนสีชมพู)ถูกตบที่หู ลากไปกับพื้น และกระชากหัว และพบประธาน จิตรเที่ยง อายุ37ปี (ผู้ก่อเหตุสวมเสื้อวิน)ถูกไม้คมแฟกตีเข้าที่แก้มซ้าย แผลยาวประมาณ 3นิ้ว ซึ่งทั้ง2ฝั่งเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน สาเหตุมาจากความเข้าใจผิดและเรื่องออกตัวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ควบคุมตัวทั้ง2ฝ่ายมาที่สภ.ปากเกร็ด พร้อมกันและจะมีการทะเลาะวิวาทที่ สภ.ปากเกร็ด ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไล่ทั้ง2ฝั่งกลับไป ซึ่งทั้งสองยังไม่ได้แจ้งความเนื่องจากจะขอติดต่อเจรจากันเองก่อน และตกลงค่าเสียหายเพราะเจ็บทั้ง2ฝั่ง
จากการสอบถามนางชิม พี่สะใภ้ของผู้หญิงชุดนอนสีชมพู เล่าว่า เมื่อวานกลุ่มของนายประธานเข้ามา เข้ามาพังร้าน และวันนี้เขาเข้าทาอีกครั้ง มาพร้อมกับไม้คมแฝกและกระชากตนออกมาจากร้านทำให้ไม้คมแฝกหล่นและโดนเข้าที่หัวตน หลังจากนั้นเขาได้เดินไปกระชากน้องสะใภ้ของตนต่อที่สวมชุดนอนสีชมพูตามในคลิป และบอกว่าจะไปเอาพวกมาต่อ หลังจากนั้นเขาก็วิ่งหนีไป ซึ่งตอนเกิดเหตุไม่มีผู้ชายอยู่มีแต่ผู้หญิง ผ่านไปสักพักหลานๆที่เป็นผู้ชายได้เข้ามาที่ร้านแบะถามเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นนายประธานฯได้มาถามหาเด็กผู่หญิงอายุ14ปี ที่ท้องอยู่เข้ามาหาเรื่องแต่เด็กกลัว พวกตนจึงไปห้ามและมีปากเสียงกันเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่พวกตน จึงเกิดเรื่องตามคลิปวงจรปิด
ส่วนทางด้านนายประธานยังไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อเนื่องจากมีอาการมึนเมา และติดสายคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา ยังไม่สามารถบอกเรื่องราวได้ และฝั่งคู่กรณีเคยเป็นเพื่อนกับนายประธานมาก่อน อาจจะมีการนัดคุยกันนอกรอบเพื่อจ่ายค่าเสียหาย