หนุ่มคลั่งเมาสุราแล้วเพี้ยน!อาละวาดขู่จะขว้างระเบิดใส่ร้านค้า
วันนี้ 7 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า ศูนย์วิทยุ 191 สภ.ระเบาะไผ่อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งมีคนเมาสุราอาละวาด ที่ร้านค้าแห่งหนึ่งข้างปั๊มน้ำมัน PT ม.5 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ชายหนุ่มคนดังกล่าวขู่เจ้าของร้านค้าอีกว่าตนเองมีระเบิดอยู่ในกระเป๋าสีดำพร้อมที่จะขว้างระเบิดใส่ได้ทุกเวลา หลังรับแจ้งสายตรวจและชุดสืบสวน ระดมกำลังกว่า 10 นาย รถตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นร้านค้าขายของชำ พบชายวัยกลางคนรูปร่างผอมใส่เสื้อผ้าสีดำพูดจาวกวนไปมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงควบคุมตัวไว้จากนั้นได้ค้นกระเป๋าเป้สีดำ ซึ่งเป็นของชายหนุ่มคนดังกล่าวที่อ้างว่ามีวัตถุระเบิดอยู่ในกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ จากการตรวจค้นไม่พบวัตถุระเบิดตามที่กล่าวอ้าง พบแต่เพียงวิทยุสื่อสารจำนวน 2 เหล้าขาวขวดเล็กวางอยู่บนโต๊ะ 1 ขวด เครื่อง และพระเครื่องจำนวน 1 ทราบชื่อในเวลาต่อมาชื่อเก่ง ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง เป็นชาวตำบลหนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านค้าดังกล่าว ต่อมา พ.ต.อ.พงษ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ พร้อมชุดสืบสวนเดินทางมายังที่เกิดเหตุและสอบถามตำรวจทราบว่า ชายคนดังกล่าวมีอาการมึนเมาและพูดจาเลอะเทอะ ไม่พบวัตถุระเบิดตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด จากนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวชายหนุ่มคนดังกล่าวไปสงบสติอารมณ์ที่สภ.เพื่อสอบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง นางนาตยา บุญบรรลุ เจ้าของร้านขายของชำกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายเก่งมากินเหล้าอยู่ที่ร้านค้า และพูดจาส่งเสียงดังตลอดเวลา และพูดเสียงดังใส่ตนเองเดินวนไปวนมาและทุบโต๊ะ ตนจึงบอกให้นายเก่งกลับไปนอนพักผ่อนที่บ้าน ซึ่งที่ผ่านมานายเก่งเคยมาซื้อของและซื้อเหล้าที่ร้านค้าประจำ กินเหล้าเสร็จแล้วก็กลับไปบ้าน วันนี้ไม่รู้ว่านายเก่งไม่พอใจอะไร จึงได้เสียงดังใส่ตนเอง รู้จักนายเก่งดีว่าถ้าไม่เมาจะไม่พูดเสียงดัง แต่ถ้าเกิดเมาแล้วจะมีอาการพูดเสียงดัง ป้าหยาดฟ้า พิมพ์ฟ้า พี่สาว กล่าวว่าโดยปกติน้องชายเวลากินเหล้าจะเสียงดัง แต่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครและไม่เคยทำร้ายใคร วันนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดหลังจากเลิกงานซึ่งทำงานเป็นพนักงานขับรถของบริษัทแห่งหนึ่ง หลังเลิกงานก็จะมาซื้อของแล้วซื้อเหล้ากินที่ร้านค้าคนรู้จักนี้เป็นประจำ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวสงบสติอารมณ์ไว้ที่สภ.ก่อน หากสั่งเมาแล้วจะไปติดต่อสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง ว่าทางน้องชายจะมีความผิดอย่างไรบ้าง
