เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 ส.ค. พล.ต.ต.สราวุธ จินดาคำ ผบก.น.3 และ พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ รอง ผบก.บก.น.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.นิเวชร์ งามลาภ ผกก.สส.บก.น.3 และ พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี สนธิกำลังเข้าจับกุม
นายมงคล หรือเจ มัจฉสินธู อายุ 33 ปี นายนรากรณ์ หรือดุ้น อัสโม อายุ 31 ปี และนายสมบูรณ์ หรือเอ็ม บำรุงเวช อายุ 31 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 503,005 เม็ด ยาไอซ์ 12 กิโลกรัม อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 8 นัด โดยจับกุมตัว นายมงคล ได้ที่บ้านเลขที่ 155 ซอยนิมิตใหม่ 20 หมู่บ้านคาซาลีน่า 2 แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวา กทม. ก่อนขยายผลติดตามไปจับกุมตัว นายนรากรณ์ และ นายสมบูรณ์ ได้ในละแวกเดียวกัน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายมงคล ซึ่งเป็นผู้ต้องหา พัวพันคดียาเสพติดมาตั้งแต่ปี 2550 ถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังมีพฤติการณ์มั่วสุมเสพยาเสพติดและลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ให้กับลูกค้าย่านมีนบุรี และลูกค้าในพื้นที่ บก.น.3 จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบในบ้านดังกล่าว พบของกลางยาบ้าและยาไอซ์ ที่ นายมงคล ซุกซ่อนเอาไว้ตามซอกหลืบต่างๆ จำนวนมาก จากผลการตรวจปัสสาวะก็พบว่า นายมงคล มีฉี่เป็นสีม่วง โดยชั้นจับกุมเจ้าตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่ายาบ้าและยาไอซ์ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้ในครั้งนี้ เป็นของกลางซึ่ง นายยูซุบ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ฉายา “ยูซุบ เกาะดอน” เช่าบ้านเก็บเอาไว้ จากนั้นว่าจ้างให้ตน นายนรากรณ์ และนายสมบูรณ์ คอยดูแลรักษา ก่อนแบ่งหน้าที่กันนำออกไปมอบให้ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งตนจะได้ค่าจ้างเที่ยวละ 30,000 บาท ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ส่งยาเสพติดล็อตใหญ่ตามคำสั่งนายยูซุบ ไปแล้วหลายเที่ยว นอกจากนี้ตนและนายนรากรณ์ ยังแบ่งปันยาบ้าไปขายให้ลูกค้ารายย่อยในพื้นที่อีก ในราคามัดละ 12,000 บาท ได้เงินมาแบ่งกันหลายครั้ง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลจับกุมตัวเอาไว้ได้ โดยอาวุธปืนนั้นเป็นของ นายนรากรณ์ ที่พกติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา
เบื้องต้นชุดจับกุม สันนิษฐานว่า ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน น่าจะช่วยกันส่งยาบ้า และยาไอซ์ล็อตใหญ่ให้ลูกค้าตามคำสั่ง นายยูซุบ ไปแล้วจำนวนมาก โดยเฉพาะยาบ้าน่าจะถูกส่งถึงเอเย่นต์รายย่อยไปกว่า 1,500,000 เม็ด จึงคุมทั้ง 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เเจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า/ยาไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิด กฎหมาย อันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ส่วน นายนรากรณ์ ถูกแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะเพิ่มเติมด้วยเนื่องจากถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืนของกลาง
