ชาวบ้านกว่า 30 คน ถือป้ายบุกวัดหลังมีป้ายไปติดที่สำนักสงฆ์จะรื้อสำนักสงฆ์
ทำให้ชาวบ้าน สงสัยว่าจะมีอะไรเบื้องหลังที่วัดธรรมนิมิตต์ ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ชาวบ้านกว่า 30 คน ถือป้ายประท้วงวัด เรื่องขับไล่ที่ดินสำนักสงฆ์สันติธรรม ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งที่ดินนั้นเป็นของวัดธรรมนิมิตต์ โดยชาวบ้านได้บุกถึงกุฏิ พระปลัดเฉลิมเจ้าอาวาสวัดธรรมนิมิตต์และได้สอบถามถึงเหตุผลที่มีป้ายไปติดที่สำนักสงฆ์มีข้อความว่า ประกาศวัดธรรมนิมิตต์ เนื่องด้วยพื้นที่โฉนดเลขที่ 6322 ตั้งอยู่เขต ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นกรรมสิทธิ์พื้นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมนิมิตต์ ปัจจุบันได้มีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม เข้าไปใช้ประโยชน์พื้นที่ดังกล่าว เมื่อมีคำพิพากษาของศาลจังหวัดให้ขับไล่ให้ขนย้ายออกจากที่ํรณีสงฆ์ดังกล่าวภายในวันที่15สิงหาคม2566นี้หากพ้นระยะเวลาที่กำหนด ทางวัดจำเป็นจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด จึงแจ้งมาให้ทราบ ลงชื่อเจ้าวาสวัดธรรมนิมิตต์ โดยพระปลัดเฉลิม กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ดูแลเฉพาะพื้นที่ธรณีสงฆ์ในเขตวัดนี้เท่านั้น เรื่องพื้นที่ธรณีสงฆ์ที่อื่นต้องให้ทางกรรมการวัดเข้ามาอธิบายจะชัดเจนกว่าซึ่งทางวัดแจ้งไม่ได้ให้รื้อถอนแต่ให้รื้อเฉพาะร้านอาหารที่ตั้งอยู่รอบบริเวณสำนักสงฆ์สำนักสงฆ์สันติธรรมเท่านั้นทางด้านนายอุทัย ทองทวี ตัวแทนสำนักสงฆ์และชาวบ้าน ได้เปิดเผยว่า พวกตนมาในวันนี้เพื่อต้องการสอบถามทางวัดธรรมนิมิตต์ในเรื่องที่มีการนำใบประกาศไปติดให้รื้อสำนักสงฆ์สันติธรรม ต.สำนักบก อ.เมืองจ.ชลบุรีและบริเวณรอบๆสำนักสงฆ์นั้นพวกตนจึงได้รวมตัวกันมาสอบถามข้อเท็จจริงกับทางเจ้าอาวาสวัดธรรมนิมิต์ เนื่องจากตอนนี้เท่าที่ตนทราบยังไม่มีคำสั่งจากศาลให้รื้อถอน ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงเข้าพรรษาหากทำการรื้อถอนไปแล้วพระในสำนักสงฆ์จะทำอย่างไรจะไปจำพรรษาที่ไหนและพวกตนต้องการสอบถามถึงเรื่องกรณีกรรมสิทธ์ในที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมนิมิต์ที่ปัจจุบันได้มีบุคคลไม่พึงประสงค์ออกนามได้ไปใช้พื้นที่ของวัดดังกล่าว พวกตนอยากรู้ว่าบุคคลดังกล่าวนั้นคือใครอยากให้ทางวัดธรรมนิมิต์ได้ออกมาชี้แจงโดยต่อมาได้มีนายเอก(นามสมมุติ)คณะกรรมการวัดธรรมนิมิตต์ได้มาชี้แจงโดยอ้างว่าไม่ได้ให้รื้อสำนักสงฆ์แต่ให้รื้อเฉพาะร้านค้าที่ตั้งอยู่รอบๆสำนักสงฆ์ เช่นร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านอื่นๆ เพราะทางวัดต้องไปจ่ายภาษีโรงเรือนและร้านค้าอื่นๆที่ อบต.สำนักบกแทนปีละหลายหมื่นบาทซึ่งทางตนมีหลักฐานแต่อยู่ในรถเก๋งที่เอาไปซ่อมอยู่และเวลาต่อมาทั้งทางฝ่ายชาวบ้านที่มาร้องทุกข์ต้องการให้สำนักสงฆ์นั้นอยู่ต่อเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจโดยสำนักสงฆ์แห่งนี้ได้สร้างมานานหลาย 10ปีชาวบ้านมาทำบุญกันเป็นจำนวนมาก ได้เดินทางไปพบนายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรีเพื่อขอให้ช่วยเหลือ ซึ่งทางนายธวัชชัยผวา.ชลบุรีหลังดูหลักฐานต่างๆก็บอกว่าจะรับเรื่องไว้และจะหาทางช่วยเหลือแต่ช่วยอะไรไม่ได้มากเพราะติดคำสั่งศาล ทำอะไรก็ต้องตามที่ศาลออกคำสั่งมาจะไปขัดคำสั่งศาลไม่ได้เด็ดขาด










