เมื่อเวลา16.00 น.วันที่6 ส.ค.66 พ.ต.ท. ธนกร จันรอด รอง ผกก..สส.สน.ท่าข้าม พร้อมฝ่ายสืบสวนกก.สส.บกน.9 นำกำลังซุ่มโปร่งบริเวณใกล้เคียงกับบ้านเลขที่58/872 หมู่บ้านสินทวี โครงการ2 ถนนพระราม2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทีบน กรุงเทพฯ เนื่องจากมึผู้ต้องหาก่อเหตุบุกรุกเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว และทำร้ายร่างกายใช้มีดจี้คอพยายามข่มขืน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา และช่วงสายของวันนี้(6 ส.ค.)คนร้ายได้นำขนมใส่ถุงพร้อมเขียนจดหมายมีใจความว่า “พี่ซื้อขนมมา ขอโทษนะคับ อย่าลืมกินยาด้วยนะคับ ถ้าพี่มีอะไรพอจะช่วยได้ พร้อมเบอร์โทรศัพท๋”มาแขวนไว้ที่รั้วบ้าน
ทางพ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม พ.ต.อ.ธิติพงศ์ สียา ผกก.สส.บกน.9 พร้อมฝ่ายสืบสวนจึงได้วางแผนล่อให้คนร้ายนำยาลบลอยแผลเป็นมาส่งให้ผู้เสียหาย จนกระทั่งถึงเวลานัดหมาย คนร้ายขี่รถจยย.GPX สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาวนดูลาดเลาอยู่หลายรอบ เมื่อเห็นปลอดโปร่งจึงจอดรถเอาถุงยากำลังจะไปแขวนหน้ารั้ว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเจ้าจับกุม คนร้ายไหวทุนวิ่งหลบหนี แต่ก็ไปไม่รอดถูกชาร์จจับกุมตัวได้ดังกล่าวทราบชื่อนายอัศกรณ์ หรือ กอล์ฟ อู่งานสิน อายุ34ปี ตรวจค้นในตัว พบมีดปอกผลไม้ยาว6นิ้วเหน็บอยู่ที่เอวด้านหน้า จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวไปสอบสวนที่สน.ท่าข้าม และทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะพบเป็นสีม่วง เนื่องจากเพิ่งเสพยาบ้าก่อนออกมาถูกจับกุมตัว
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประม่ณ08.00 น.วันที่5 ส.ค.ขณะที่น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ24ปี ข้าราชการสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินออกมาจากห้องนอนชั้น2 ปรากฏมีคนร้ายเป็นชายขี่รถจยย.มาจอดหน้าบ้าน แล้วเปิดประตูเข้าไปในตัวบ้าน เพราะประตูไม่ได้ล็อก ขึ้นไปพบผู้เสียหาย ใช้มือบีบคอ และใช้มีดปอกผลไม้จี้บังคับพยายามข่มขืน แต่ผู้เสียหายร้องตะโกนให้น้องชายช่วยเหลือ เมื่อน้องขายวิ่งขึ้นมาเจอคนร้าย ทำให้คนร้ายตกใจและใช้มีดวิ่งไล่แทงน้องชาย จังหวะนั้นผู้เสียหายวิ่งออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน คนร้ายอาศัยจังหวะชุลมุนขี่รถจยย.หลบหนีไป โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด โดยผู้เสียหายได้แจ้วความไว้ที่สน.ท่าข้าม
จากการสอบถามญาติผู้เสียหาย ได้ความว่า คนร้ายมาเช่าบ้านอยู่ไม่ไกลกับบ้านผู้เสียหาย มักมีกลุ่มวัยรุ่นรถ่นเข้ามามั่วสุม แต่ก็ยังไม่เคยก่อความเดือดร้อน และคาดว่าคนร้ายแอบชอบผู้เสียหาย เฝ้าสังเกตุพฤติกรรมผู้เสียหายมาได้สักระยะ แถมเคยบุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายมาแล้ว แต่ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความเอาเรื่อง เพราะได้รับแจ้งจากชาวบ้านในระแวกนั้นว่าคนร้ายรายนี้ก็เคยบุกเข้าไปในบ้านระแวกใกล้เคียงอีก3-4หลัง แต่ก็ไม่มีใครแจ้งความ
จากการสอบสวนนายอัศกรณ์ ให้การปฏิเสธ พูดจาวกวน แต่ยอมรับว่าเสพยาบ้าเข้าไปก่อนก่อเหตุ จากการตรวจสอบประวัติพบเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อเดือน ต.ค.65 ข้อหา บุกรุกและพยายามล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเคยถูกดำเนินคดีลักษณะเช่นนี้มาก่อนหน้านี้2ครั้งแล้วทั้งในกรุงเทพฯและนนทบุรี
ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
