นนทบุรี วงจรปิด สุดทน เจ้าของบ้านประกาศขายบ้าน หลังเพื่อนบ้านตั้งวงกินเหล้าส่งเสียงดังเกือบทุกวัน แถมต่อยลูกเขยเจ็บ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 23 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายชุติพนธ์ รสทอง อายุ 29 อาชีพ ขับรถรับจ้างบริษัท และน.ส.สุธามาศ ชายเนตร อายุ 29 ปี อาชีพ รับจ้างทั่วไป สองสามี-ภรรยา ว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 ราย ได้เดินเข้ามาพูดจาข่มขู่หาเรื่อง แล้วชกต่อยนายชุติพนธ์ได้รับบาดเจ็บขณะยืนล้างรถยนต์อยู่หน้าบ่าน หลังโทรร้องเรียนเจ้าของที่ดินให้เตือนข้างบ้านเรื่องตั้งวงดื่มสุราแล้วส่งเสียงดังเกือบทุกวัน ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ทำให้ไม่ได้หลับไม่ได้นอน อดทนมานานกว่า 1 ปี ถูกข่มขู่ประจำจนอยู่ไม่ได้ต้องย้ายบ้านหนีเนื่องจากกลัวเรื่องอิทธิพล พร้อมประกาศขายบ้าน ที่เกิดเหตุบ้านหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์วันที่ 22 ก.ค.66 เวลาประมาณ 08.15 น. บันทึกภาพ นายชุติพนธ์ยืนถอดเสื้อกำลังล้างรถอยู่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนมีรถยนต์สีดำขับมาจอด แล้วมีกลุ่มชายฉกรร์ 3 ราย มีนายเต้สวมเสื้อยืดสีดำ ส่วนอีก 2 รายไม่ทราบชื่อสวมเสื้อสีแดง เดินลงจากรถแล้วปรี่เข้ามาหานายชุติพนธ์มีการพูดจาเรื่องที่ไปฟ้องเจ้าของที่ดินเรื่องกินเหล้าเสียงดังตอนกลางคืน ก่อนชายสวมเสื้อสีแดงรูปร่างท้วมได้ชกช่อยนายชุติพนธ์ได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างออกมาห้ามปรามกลุ่มชายฉกรร์
นายชุติพนธ์ เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุ คนที่ทำร้ายตนขับรถเข้ามาเปิดกระจกรถแล้วถามต้นว่า “มึงไปฟ้องอะไรเจ้าของที่” ก่อนลงมาจากรถแล้วถามตนว่า “มองหน้าเฮียอะไร” จากนั้นพวกเขาเดินมาอีก 2 คน แล้วโวยวายถามว่ามึงเยอะเหรอ มีการเดินมาจะบีบคอตนก่อนชกต่อย 3-4 หมัด โชคดีมีลุงคนข้างบ้านเข้ามาห้าม ซึ่งหนึ่งในกลุ่มที่มาทำร้ายตนรู้จักชื่อคนเดียวคือชื่อ เต้ สวมเสื้อสีดำ ซึ่งชายทั้ง 3 คน ข่มขู่ว่ามึงอย่าเยอะเดี๋ยวจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้ แฟนตนเห็นเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดในมือถือเลยรีบขับรถเข้ามาพร้อมกับแม่ยาย ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากตนไปฟ้องเรื่องส่งเสียงดัง
น.ส.สุธามาศ กล่าวว่า บ้านข้างตนเสียงดังมานานแล้วเกือบ 1 ปี ตนอดทนมานาน เป็นทั้งความดันเป็นทั้งไมเกรน ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้า ซึ่งตนโทรไปหาเจ้าของที่แล้วบอกกับเจ้าของที่ดีๆให้ช่วยคุยเจรจาเรื่องเสียงดังตอนกลางคืนให้หน่อย พอทางคู่กรณีทราบเรื่องว่าตนไปฟ้องจึงไม่พอใจเลยมาต่อยแฟนตน โดยพฤติกรรมข้างบ้านก็จะนั่งจับกลุ่มร้องเพลงและเปิดเพลงเสียงดัง หนักสุดก็ 03.00 น. เร็วสุดก็ประมาณ 00.00 น.โดยจะรวมตัวกันอาทิตย์นึงประมาณ 5 วัน เวลาเขาเปิดเพลงดังร้องเพลงดังตนต้องเปิดทีวีเสียงดังแข่งยอมเปลืองไฟดีกว่ามานั่งเครียด ตอนนี้ตนรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่รู้จะทำยังไงและไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกับเรื่องพวกนี้ ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดว่าถ้ากูมีปืนกูยิงแล้วแต่ตนไม่รู้ว่าพูดกับใคร ตนเลยไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ตอนนี้ตนต้องหลบมาอยู่ที่อื่น เนื่องจากกลัวไม่ปลอดภัย แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วที่สภ.ปากเกร็ด แต่ตำรวจบอกว่าให้ไปเอาชื่อจริงนามสกุลจริงบ้านข้างๆมาให้ ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงต้องมานั่งหาชื่อเอง จึงนไเรื่องมาร้องเรียนสื่อมวลชน และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีคนที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายแฟนตน
น.ส.สิริวรรณ สันเต๊ะ อายุ 53 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นแม่ของน.ส.สุธามาศ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุลูกสาวโทรมาหาว่าลูกเคยถูกต่อย ตนเจึงรีบเดินทาฃมาที่บ้านแล้วไปหาเจ้าของที่บอกว่าลูกเขยโดนต่อย คนชื่อเต้หนึ่งใน 3 คนที่ต่อยลูกเขย ได้ยินว่าตนคุยกับเจ้าของที่เลยเดินออกมาคว้าขวดจะตีตนและถามตนว่า “มึงมีอะไรนักหนาเดี๋ยวมึงจะอยู่ไม่ได้” ซึ่งทำให้ตนกลัวเรื่องความปลอดภัย วันนี้ตน ลูกสาว และลูกเขย จึงย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นก่อน แล้วจะติดป้ายประกาศขายบ้าน ถ้าขืนอยู่ไปทางลูกเขยกับลูกสาวจะไม่ปลอดภัย ขนาดตนเป็นผู้หญิงยังจะโดนขวดตีแบบนี้คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ อยากให้ตำรวจช่วยดำเนินคดีกับคนที่ทำร้ายร่างกายลูกเขยตน
