รถบรรทุกสิบล้อ 50 คันสุดทนจ่ายส่วยไม่ไหว ปิดถนน หลังมีผู้แอบบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขูดรีดรับผลประโยชน์ กับผู้ประกอบการธุรกิจรถบรรทุกขุดและถมดินหลายหลายสิบราย ขณะที่อุตสาหกรรมจังหวัดแจงทำไปตามข้อระเบียบกฎหมาย
ที่จังหวัดพิจิตร เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 มิถุนายน 2565 ผู้ประกอบการรถบรรทุกขุดและถมดิน ในจังหวัดพิจิตร หลายสิบรายได้รวมตัวกัน นำรถบรรทุกดิน จำนวนกว่า 50 คัน มาทำการปิดถนนเส้นทางเลี่ยงเมืองพิจิตร บนทางหลวงหมายเลข 111 สากเหล็ก-สามง่าม บริเวณหน้าสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร นำโดยนายมะยม สงวนทรัพย์ ผู้ประกอบการรถบรรทุกรับเหมาขุดและถมดิน อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โดยนายมะยม กล่าวว่ามีผู้ประการหลายราย รวมทั้งตนเองด้วย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งที่ผ่านมามีผู้แบบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร ออกไปขูดเลือด ขูดเนื้อเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ โดยอ้าง ข้อกฎหมาย ทำผิด พรบ.โรงงานฯ ในการประกอบขอใบอนุญาตธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องของสำนักงานอุตสาหกรรม ในพื้นที่ต่างๆของจังหวัดพิจิตร อีกทั้งไม่แนะนำให้ผู้ประกอบการได้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง จนผู้ประกอบการรับไม่ได้ และอยู่ไม่ไหว เนื่องจากสภาวะวิกฤติน้ำมันแพงต้นทุนที่สูงขึ้น และเศรษฐกิจทรุดตัวในสภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 แถมมาถูกแออบอ้างขูดรีดรับผลประโยชน์ที่อัตราที่สูงเกินไปเพื่อแรกกับใบอนุญาตประกอบการ และที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายสิบรายไม่อยากมีปัญหากับส่วนราชการดังกล่าว จึงยินยอมจ่ายผลประโยชน์ หรือส่วย ให้ไปหลายครั้งแล้ว สำหรับวันนี้นอกจากจะทำการปิดถนนแล้วยังได้นำป้าย เขียนข้อความต่างๆเพื่อให้อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร แก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการโดยเร็ว และผ่อนคลายมาตรการต่างๆ อีกทั้งผู้ประกอบการจะได้นำหนังสือเปิดผนึกบันทึกปัญหาความเดือดร้อนส่งถึงนายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ให้ดำเนินการตรวจสอบเอาผิดและแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้เศรษฐกิจในจังหวัดพิจิตรขับเคลื่อนและเดินหน้าต่อไปได้ สำหรับการนำรถบรรทุกดินที่ได้รับความเดือดร้อน มาปิดถนนในครั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้สังคม หรือผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ได้รับรู้ถึงปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ ที่ทำมาหากินแบบสุจริต จึงมาทำการเรียกร้องดังกล่าว จากนั้นผู้แทนผู้ประกอบการได้เดินไปยื่นหนังสือต่อนายฐิติณัฏฐ์ มุณีรัตน์ อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร เพื่อรับเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ โดยอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร ได้ระบุหลังรับหนังสือว่า ทุกอย่างที่เข้มงวดนั้นทำไปตามระเบียบ และกฎหมายทุกประการ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรทราบถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามภายในสัปดาห์หน้ายังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนในการกระทำผิดของผู้แอบบอ้างรับผลประโยชน์(ส่วย) ผู้ประกอบการจะมีการนัดเคลื่อนไหวอีกครั้ง จึงแยกย้ายกันกลับภูมิลำเนา // ภาพข่าว/คณกฤช มัชฌิมา จ.พิจิตร