นนทบุรี ต่อข่าว เปิดใจผู้ก่อเหตุฟันนิ้วขาด เผย เคยถูกคู่กรณีฟันมาก่อน ชอบมีอาการคลั่งโวยวายคล้ายคนติดยา จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายยุธพงษ์ สังข์เทศ หรือนายบอล อายุ 25 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป (ผู้บาดเจ็บ) ว่าถูกครอบครัวนายสมนึก (คู่กรณี) น.ส.กวาง (น้องสาวนายสมนึก) ใช้ไม้หน้าสามตี และนายปอนด์ (ลูกเขยนายสมนึก) ใช้มีดหัวตัดฟันนายบอล จนได้รับบาดเจ็บสาหัส นิ้วโป้งข้างขวาขาด ปลายนิ้วนางข้างขวาขาด ที่ฝ่ามือเป็นรอยมีดบาดทั้ง 4 นิ้ว ที่ศีรษะถูกมีดฟันเย็บ 10 เข็ม แขนข้างซ้ายโดนมีดฟันถึงกระดูก เย็บ 5 เข็ม เหตุเกิดบริเวณซอยขจรเนติยุทธ 3 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรี เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 66 เวลาประมาณ 18.30 น. แจ้งความไว้ที่สภ.ปากเกร็ด ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์วันที่ 16 ก.ค. 66 เวลาประมาณ 17.30 น. พบนายยุธพงษ์ หรือนายบอล (ผู้บาดเจ็บ) สวมเสื้อสีดำ กางเกงขายาวกำลังมีปากเสียงด่าทออยู่กับนายสมนึก ที่สวมเสื้อวินจยย.เบอร์ 60 ก่อนนายบอลจะวิ่งเข้ามากระโดดถีบนายสมนึกที่ยืนมีปากเสียงกัน จากนั้นนายบอลวิ่งหนีนายสมนึกมาหยิบท่อนไม้ยาว 1 ท่อน ที่ซอยข้างร้านสะดวกซื้อ แล้วเดินปรี่เข้าไปหานายสมนึกอีกครั้ง ซึ่งก็เดินวนเวียนอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุยังไม่มีการไล่ตีกันแต่อย่างใด จากนั้นมีหญิงรายหนึ่งทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.กวาง สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นญาติของนายสมนึก เดินถือท่อนไม้ขนาดสั้นมุ่งตรงเข้าไปหานายบอลจนทำให้มีการฉุดกระชากกันเล็กน้อย ก่อนที่นายปอนด์ (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งเป็นลูกเขยของนายสมนึก ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขายาวสีดำ 1 ตัว วิ่งถือมีดยาว 1 เล่ม เข้ามาฟันนายบอลไม่ยั้งขณะที่นายบอลกำลังเสียหลักฉุดกระชากกันอยู่กับน.ส.กวาง และนายสมนึกวิ่งเข้ามารุมทำร้าย ขณะที่นายบอลถูกฟันจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ทำให้รับบาดเจ็บจนนิ้วขาด ชาวบ้านจึงช่วยดึงตัวนายบอลออกมานั่งพัก และประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้นำตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุด เมื่อเวลา 19 ก.ค.66 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 67/533 ม.5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นบ้านของผู้ก่อเหตุอยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุทราบชื่อคือนายปรัชญา เฉยเพ็ชร ผู้ก่อเหตุ อายุ 33 ปี อาชีพ รับจ้างทั่วไป กล่าวชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุตนนอนอยู่ในห้อง ลูกสาวตนวิ่งมาบอกว่านายบอลกระโดดถีบพ่อตา (นายสมนึก) และเอาไม้ตี ให้ไปช่วยหน่อย ตนจึงหยิบมีดแล้วรีบเข้าไปช่วยเหลือ เพราะก่อนหน้านี่ช่วงเที่ยงของวันเกิดเหตุนายบอลได้นำมีดเดินมาที่หน้าบ้านตน ตนเห็นแล้วจึงเลือกที่จะเดินเข้าบ้านเพราะไม่อยากมีปัญหา ซึ่งก่อนเกิดเหตุทุกอย่างมันเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องตั้งแต่นายบอลเคยตีรถพ่อตาตนเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน หลังจากนั้นไม่กี่วันถัดมาก็เอามีดมาฟันตนตอนกลางคืน ตนเห็นลูกสาวนั่งอยู่ใกล้นายบอลจึงให้ลูกสาวหนีไปไกลๆ เพราะนายบอลถือมีดและลับมีดกับพื้นปูน ก่อนมาฟันตนแต่ไม่เข้า ซึ่งตนไม่เคยมีเรื่องกับนายบอลมาก่อน แต่ทุกครั้งนายบอลจะเริ่มก่อนตลอด ส่วนวันเกิดเหตุตนเป็นห่วงลูกสาวมากกลัวนายบอลจะมาทำร้าย จึงตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบในตอนนั้นออกไปปกป้องลูกสาว และพ่อตา ตนยอมรับว่าควบคุมอารมณ์ไม่ไหว เพราะตนพยายามไม่มีเรื่องมาตลอดแล้ว ตอนนี้ ห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะนายบอลพกมีดอยู่ตลอดเวลา ขนาดตนยังเคยโดนฟัน ตนเลยกลัวลูกสาวจะถูกทำร้ายไปด้วย ในใจนายบอลไม่รู้ว่ามีอะไรจ้องแต่จะทำร้ายคนในบ้านตน ที่ผ่านมาตนเลือกไม่แจ้งความ แต่ความปลอดภัยของครอบครัวตนไม่มี วันนั้นจึงเกิดความเครียด ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนลงมือทำร้ายนายบอล นางเพ็ชรี เจ็กเกษม อายุ 59 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ลูกชายตนเป็นคนทำงานไม่เคยมายุ่งวุ่นวายกับนายบอลเลยสักครั้ง ในวันที่เกิดเหตุตนไม่อยู่บ้าน มาทราบเรื่องภายหลังว่าลูกชายไปก่อเหตุใช้มีดฟันนิ้วขาดตนรู้สึกตกใจและเป็นลมในวันนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้นายบอลคนเจ็บเคยก่อเหตุใช้มีดฟันลูกชายตนมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่เข้าลูกชายไม่ได้แจ้งความ และไม่ได้เล่าให้ตนฟังว่าเคยถูกฟันมาก่อนเนื่องจากกลัวพ่อที่นอนป่วยโรคหัวใจอยู่โรงพยาบาลจะเครียด ซึ่งตอนนี้ตนและครอบครัวไม่กล้าออกไปหน้าบ้านเพราะกลัวนายบอลที่ชอบมีอาการลักษณะคล้ายคลั่งยาชอบอาละวาด จะออกไปซื้อของข้างนอกต้องระแวงและระวังตลอด บางทีถึงกับต้องออกไปดูก่อนว่านายบอลอยู่หรือเปล่าก่อนจะเดินออกไปข้างนอก ซึ่งตอนนี้ลูกชายคนตนบำบัดยาเสพติดอยู่ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ก็รักษามาตลอดพาไปโรงพยาบาลรับยามากิน แต่ช่วงนี้มามีเรื่องเสียก่อนจึงยังไม่ได้ไปรับยามากิน ตนให้กินยาคลายเครียดชั่วคราวไปก่อน ซึ่งวันทีเรื่องคาดว่าอารมณ์คงไม่ปกติจึงตัดสินใจก่อเหตุ โดยปกติแล้วลูกชายตนเป็นคนอารมณ์ชอบปลูกต้นไม้ ไม่ใช่คนที่ไปหาเรื่องใคร ถ้าไม่มีใครไปกระตุ้นอารมณ์ให้โมโหก็เหมือนคนปกติทั่วไป ซึ่งเมื่อวานตนได้ยินมีคนมาเรียกหน้าบ้านกลัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุเลยไม่กล้าออกไป และพึ่งรู้ตอนนี้ว่าเมื่อวานผู้สื่อข่าวเข้ามาสอบถามจึงขอขอบคุณแล้วขอให้ตนได้ชี้แจงเรื่องที่เกิดเหตุขึ้นทั้งหมดเพราะตอนนี้ลูกชายเป็นจำเลยสังคม นายโก๊ะ อายุ 62 ปี ลุงของผู้ก่อเหตุ ตนทราบมาว่านายบอลกับปอนมีเรื่องกันมาก่อนแต่ไม่ราบเรื่องอะไร นายบอลเคยเข้ามาที่หน้าบ้านของตน เข้ามาตะโกนด่า ด่าตนแบบเสียหาย ทุกครั้งที่นายบอลมาตนก็ได้แต่วิ่งหนีเข้าบ้าน บางครั้งก็มีมีดมาด้วย ตนไม่เคยตอบโต้ ไม่เคยด่าเขากลับไป ซึ่งตนได้แต่หนีเวลาเขาทะเลาะกันที่สามแยกจะเข้ามาพาลที่บ้านของตน ซึ่งบอลเข้ามาอาละวาดที่บ้านหลายครั้วแล้วทำให้ทุกคนกลัว ซึ่งตนก็ระแวงเวลาออกจากบ้านต้องพกมีดเพื่อป้องกันตัวไว้ ตอนนี้ตนไม่ค่อยกล้าออกจากบ้านเพราะกลัว ตอนนี้ต้องระวังกันเองเพราะแถวนี้มีคนแก่และเด็กเล็กเยอะ ส่วนสาเหตุที่นายปอนเข้าไปทำร้ายนายบอล เพราะว่าพ่อตาจะถูกบอลทำร้ายและตนซึ่งเป็นลุงของบอลก็โดนเช่นกัน ปอนเลยโมโห เพราะเป็นห่วงลูกด้วย จึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่องบอลจะเป็นคนเริ่มก่อน ตนก็อยากให้บอลติดคุก เพราะก่อเหตุมาหลายครั้งแล้ว เวลาพวกตนโดนก็ไม่มีใครไปแจ้งความ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ด ได้ควบคุมตัวนายปรัชญา เฉยเพ็ชร ผู้ก่อเหตุ อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุได้ยืนรอมอบตัวในวันเกิดเหตุทางตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปที่สภ.ปากเกร็ด ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนทำบันทึกประวัติลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ทางตำรวจจะมีการเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป














