ปอนด์-นิพนธ์ เจ้าของเพลงดังไทม์แมชชีนและแฟนสาว, ออยรอยจูบ,แอดมินเฟชบุ๊กเชอร์รี่สามโคก หลังโปลิศไซเบอร์ร่อนหมายเรียก
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 ก.ค. นายนิพนธ์ หรือปอน จิตกล้า ศิลปินเจ้าของเพลงดังtimemachine ,น.ส.จิรนันท์ หรือปู ทองเกลี้ยง,น.ส.ปภาวี ชัยมงคล หรือ ออย รอยจูบ ,นายกฤษดา ชนะขันธ์ น.ส.ลฎาภา รัชตะอมรโชติ หรือ เชอร์รี่ สามโคก เดินทางเข้าพบพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ผบก.สอท.2 เพื่อรับทราบข้อหาตามหมายเรียก ในข้อหา ม.12 พรบ.การพนัน พ.ศ.2478 “ผู้ใดช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันฯ ระวางโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
สืบเนื่องจากพล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร.ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนบช.สอท.สืบสวนหาข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ตามแพลตฟอร์มต่างๆ เกี่ยวกับความผิดในเรื่องของการพนันออนไลน์ หลังพบมีเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์
ได้ประกาศโฆษณาชักชวนบุคคลทั่วไปให้เข้าเล่นการพนันออนไลน์ ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ในลักษณะการประกาศจูงใจเพื่อให้มีผู้เข้าไปเล่น จัดโปรโมชันให้เครดิตต่างๆ ทางพนักงานสอบสวนบช.สอท. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนออกหมายเรียกอินฟลูเอ็นเซอร์ มาแจ้งข้อกล่าวหา ประกอบไปด้วย นายนิพนธ์ หรือปอน จิตกล้า ศิลปินเจ้าของเพลงดังtimemachine ซึ่งมียอดวิวในยูทูปกว่า 129 ล้านวิว หลังโพสต์เฟซบุ๊คเปิดสาธารณะชวนแอดไลน์พนัน @sboteam และ @sbopremier, น.ส.จิรนันท์ หรือปู ทองเกลี้ยง แฟนปอน นิพนธ์ อินฟลูเอ็นเซอร์ที่มีผู้ติดตามเฟซบุ๊กกว่า 4 แสนคน และยังมียอดวิวติดตามการคัฟเวอร์เพลงหลายล้านวิว หลังโพสต์เฟซบุ๊คเปิดสาธารณะชวนแอดไลน์พนัน @sure999 และ @htk999
นอกจากนี้ยังมีน.ส.ปภาวี ชัยมงคล หรือ ออย รอยจูบ หลังโพสต์เฟซบุ๊คเปิดสาธารณะชวนแอดไลน์พนัน @htk999 และ @bz888 รวมทั้งนายกฤษดา ชนะขันธ์ : ผู้จัดการของ น.ส.ลฎาภา รัชตะอมรโชติ หรือ เชอร์รี่ สามโคก ซึ่งได้ดูแลเฟสซบุ๊ค”เชอร์รี่ สามโคก official” โพสต์เฟซบุ๊คเปิดสาธารณะชวนแอดไลน์พนัน @sbopremier อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนบช.สอท.ได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ม.12 พรบ.การพนัน พ.ศ.2478 “ผู้ใดช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันฯ ระวางโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า ทางบช.สอท.ได้มีการเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงที่พบว่าเริ่มมีการใช้ช่องทางของตนเองในการโฆษณาเว็บไซต์การพนันโดยจะมีการชักชวนให้มีการเล่นด้วยกันทิ้ง ไลน์ไอดีแอดเอาไว้ตามโพสต่างๆ ซึ่งไลน์แอดดังกล่าวนำไปสู่การสมัครเข้าร่วมเว็บไซต์การพนัน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับกลุ่มบุคคลที่เข้าไปเล่นการพนันจำนวนมาก โดยในวันนี้ถือเป็นกลุ่มแรกที่เรียกมาแจ้งข้อหา ซึ่งพฤติกรรมจะมีการใช้ช่องทางส่วนตัวในการโพสต์ไลน์แอดไปยังเว็บการพนันต่างๆเพื่อแลกกับรายได้เฉลี่ยเดือนละ 50,000 – 150,000 บาท ต่อการโพสต์รวมทั้งสิ้น 30 โพสต์ (ปอน แฟนปอน และออย ได้ 1 แสน ต่อ 30 โพสต์ , เชอรี่สามโคก ได้ 1.5 แสน ต่อ 30 โพสต์ ) อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเบื้องต้นทั้งหมดให้การว่าทำไปด้วยความไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดยทำไปเพราะเห็นว่าได้เงินจำนวนมาก และ ต้องการนำเงินไปหาเลี้ยงชีพ
โดยนอกจากกลุ่มนี้ทางตำรวจไซเบอร์ยังมีการจับตามองกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกเราราวประมาณ 20-30 รายที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายการทำความผิดในลักษณะเดียวกันทโดยจะมีการทยอยเรียกเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญได้แรงที่อาจสร้างปัญหาให้กับกลุ่มเยาวชนที่ติดตามกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันและอาจจะถลำลึกจนถึงขั้นเปิดกิจการเว็บพนันเพราะต้องการนำเงินมาใช้หนี้พนัน ตามข้อเท็จจริงที่เคยปรากฏมาก่อนหน้านี้ รองผบช.สอท.กล่าว
ในส่วนของโทษของการกระทำความผิดในลักษณะนี้อยู่ในระดับศาลแขวง ซึ่งมีโทษอยู่ที่จำคุกไม่เกินสองปีปรับไม่เกิน 2000 บาท แต่หลังจากนี้จะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาเรื่องของการลงโทษผู้ที่กระทำความผิดลักษณะการสับสนุนให้มีการเล่นการพนัน ซึ่งต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าจะสามารถดำเนินการเพิ่มโทษหรือยึดซับที่เป็นรายได้จากการกระทำความผิดในลักษณะการรับจ้างได้หรือไม่เพราะปัจจุบันการกระทำลักษณะดังกล่าวถือเป็นการกระทำในเชิงสนับสนุน ยังไม่ใช่การร่วมเปิดให้มีการเล่นการพนัน ซึ่งหากเป็นลักษณะการร่วมเปิดให้มีการเล่นการพนันจะสามารถดำเนินการในลักษณะแบบนี้ได้ ขณะที่ในส่วนของเว็บพนันต่างๆที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีชื่อเสียงเหล่านี้ ทางตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างการขยายผล ในการเอาผิดกับเว็บไซต์ทั้งหมดซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน โดยจะนำคำให้การของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งสี่ในวันนี้ประกอบกับหลักฐานการรับโอนเงินต่างๆมาใช้ในการขยายผล
ขณะที่นางสาวปภาวี หรือ ออยรอยจูบ ระบุว่า ตนเองไม่รู้ว่าการกระทำแบบนี้ถือว่าเป็นความผิดที่ทำไปเพราะต้องการหาเงินเลี้ยงชีพตามปกติ สำหรับตนเองจะได้ค่าจ้างในการโพสต์อยู่ที่ 4500 บาทต่อ 10 โพสต์
โดยจะมีคนติดต่อมาทางไลน์ให้มาทำการแปะลิ้งค์โฆษณาจากการโพสต่างๆของตนเอง โดยเงื่อนไขในการจ่ายเงินจะต้องมีการโพสต์ครึ่งหนึ่งของจำนวนที่มีการตกลงกันก่อนแล้วผู้จ้างจะทำการโอนเงินทั้งหมดมาให้และให้ตนเองโพสต์ตามจำนวนที่เหลืออยู่ ซึ่งจะมีการส่งลิ้งค์มาให้ตนเองทำการโพสต์ อย่างไรก็ตามขอเตือนเยาวชนและประชาชนทั่วไปอย่าได้เข้ามาทำการแบบนี้เพราะถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายซึ่งตนเองก็เพิ่งรู้
ขณะที่นายนิพนธ์ หรือ ปอน ระบุว่า ส่วนตัวรับโพสต์โฆษณาร่วมกับแฟนสาวโดยได้รายได้คนละ 50,000 บาทต่อเดือน เพื่อโพสต์จำนวนรวมทั้งสองคนที่ 30 โพสต์ โดยทำมาแล้วทั้งสิ้นประมาณสามถึงสี่เดือน ที่ทำเพราะต้องการหาเงินมาเลี้ยงชีพตามปกติและไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ส่วนการติดต่อมาของผู้จ้างวานก็มาในลักษณะเดียวกันกับของ ออยรอยจูบ คือจะมีการทักผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆและส่งลิ้งค์ที่ต้องการให้โฆษณามาให้และตกลงกันตามเงื่อนไขจำนวนโพสต์และให้ทำการโพสต์ก่อนจะมีการจ่ายเงิน
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา และทำการการปล่อยตัวทั้งสี่ กลับไปและมีการนัดหมายพบกันที่ศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี อีกครั้งในวันพรุ่งนี้เวลา 10:00 น. เพื่อทำการส่งฟ้องตามขั้นตอนต่อไป
