กก.2 บก.ปอศ.รวบสาวกรรมการบริษัทรับเหมา เลี่ยงภาษีนานนับ 10 ปี มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล , พ.ต.อ.พัฒนา ฉายาวัฒน์ รอง ผบก.ปอศ. และ พ.ต.อ.ธรรมปพน ชาวกำแพง ผกก.2 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.ชวพล เชื้อเพ็ชร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม นางบัวสร เวอร์ซูเรน อายุ 48 ปี ตามหมายจับหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.475/2565 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ได้ที่หน้าห้องพักเลขที่ 1166/32 ชั้น3 อาคารเลขที่ 67 อาคารเอื้ออาทรร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 22.30 น. ในฐานความผิด “ร่วมกันหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม กระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน” อันเป็นความผิดมาตรา ๙๐/๔(๖) แห่งประมวลรัษฎากร
สำหรับพฤติการณ์ของ นางบัวสร เวอร์ซูเรน ผู้ต้องหา เคยแต่งงานกับชาวต่างชาติ ร่วมกันเปิดบริษัทดำเนินกิจการรับเหมาก่อสร้าง โดยมีรายได้จากการดำเนินกิจการให้กับทั้งภาครัฐและเอกชน แต่ตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา แต่กลับไม่ยอมชำระภาษีให้กับกรมสรรพากร ตามกฎหมายประมวลรัษฎากร อีกทั้งมีพฤติการณ์ หลบหนี หลีกเลี่ยงการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรได้เข้ามาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. จนนำมาสู่การจับกุมในที่สุด ภายหลังการจับกุม ผู้ต้องหา ยังกล่าวอ้างถึงการเลิกกับสามีชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันยังใช้นามสกุลอดีตสามีต่างชาติอยู่ เป็นเหตให้ไม่สามารถชำระภาษีได้ และก็ยังให้การไม่สอดคล้อง โดยยังมีการอ้างถึงการรอชำระเงินจากลูกค้าที่ยังไม่ได้รับการชำระจากการดำเนินกิจการเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งไม่สามรถแสดงหลักฐานใดที่กล่าวอ้างได้ จากการตรวจพบประวัติผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินในความผิดคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เช็ค เมื่อปี พ.ศ.2562
ความเสียหายที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นรัฐได้รับความเสียหายกว่า 5 ล้านบาทจากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา กระทั่งตามวันเวลาสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวได้จับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม บก.ปอศ.ฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนและกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่มีเจตนาหลบเลี่ยงภาษีในรูปแบบต่างๆ เช่น การสร้างหลักฐานรายจ่ายมาเบิกกับบริษัทให้มากที่สุด โดยเมื่อมาถึงปลายปีจะแสดงยอดขาดทุนทำให้ไม่สามารถเสียภาษีได้ เป็นต้น หรือแม้กระทั่งการประกอบกิจการที่ได้ผลกำไรแล้ มีเจตนาหลบเลี่ยงการเสียภาษี ไม่ว่าเหตผลใดก็ตาม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการกระทำที่เป็นความผิดทำให้รัฐเสียหายทั้งสิ้น อันจะนำไปสู่การถูกดำนคดีในที่สุด