ปราจีนฯเปิดเรียนการจราจรติดขัดเนื่องจากย่านสถานศึกษาเป็นถนนวันเวย์ ศึกษาธิการจังหวัดขอให้ทุกโรงเรียนเข้มงวดโควิด-19
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ 23 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานบรรยากาศในการเปิดเรียนใหม่แบบ Onsite สัปดาแรก ซึ่งทั้งจังหวัดมีโรงเรียนทุกสังกัดรวมกว่า 495 แห่ง
พบตลอดถนนสายปราจีนอนุสรณ์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี อันเป็นย่านที่ตั้งสถานศึกษาหลายแห่ง อาทิเช่น วิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรีโรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง(ปรอ.)โรงเรียนปราจีนกัลยาณี(ปกณ.)โรงเรียนอนุบาลปราจีนบุรี โรงเรียนเทศบาล2(วัดหลวงปรีชากูล) แม้จะเป็นการเปิดเรียนอาทิตย์แรก แต่ก็มีความวุ่นวายการจรหนาแน่นเนื่องจากกำหนดใช้เส้นทางวันเวย์ในช่วงหน้าโรงเรียน ยาวตลอดถึงหน้าเรือนจำปราจีน สะพานณรงค์ดำริ ที่ประชาชนหลายคนยังไม่คุ้นเคยย้อนสวนเข้ามา ตลอดรวมถึงรถรับ-ส่ง รถผู้ปกครอง ส่งผลให้ การจราจรหนาแน่น
ด้านกำแพงรอบอาคารอนุบาลโรงเรียนเทศบาล2 (วัดหลวงปรีชากูล) พบผู้ปกครองนักเรียนจำนวนหนึ่งที่ยังมาคอยเฝ้าส่องมองลูกๆทั้งตามกำแพงโรงเรียนข้างๆโรงเรียน สอบถาม เนื่องจากเป็นห่วงลูกหลาน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19นี้
นายไพศาล ที่รัก ศึกษาธิการ จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า”กระทรวงศึกษาธิการรัฐบาลมีนโยบายเปิดภาคเรียนได้ 100% มีมาตรการ 3T 1V 1T Thai state service Plus ประเมินผ่าน 42 ข้อ 2T ไทยเซฟไทย ประเมินประจำอาทิตย์ละครั้ง 3T มีการตรวจ ATK เป็นประจำ 1V นักเรียนตั้งแต่ 5-15 ปีและบุคลากรทางการศึกษาจะต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ ซึ่งปัจจุบันนักเรียน 5-15ปีได้ทยอยเรื่องฉีดวัคซีนจนครบโดส ตามเกณฑ์แล้ว
อีกมาตรการที่กระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายเปิดคือ 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม 7 มาตรการเข้ม
6มาตรการหลักก็คือการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก คัดกรอง ลดความแออัด ทำความสะอาด
6มาตรการเสริม ก็คือดูแลตัวเอง ใช้ช้อนส่วนตัว ปรุงอาหารสุกปรุงใหม่ ลงทะเบียนเข้า-ออก ตรวจสอบและกักกันตัวเอง
ส่วน7มาตรการเข้มคือการประเมินผ่านทางไทยสต๊อปโควิดพลัสผ่านระบบ move โควิด
และทำย่อยในสถานศึกษา การจัดระบบจัดการสุขาภิบาลต่างๆ ระบบโภชนาการ เรื่องของอนามัยและสิ่งแวดล้อมให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน การทำแผนเผชิญเหตุของสถานศึกษา มีการซักซ้อมมีการเตรียมความพร้อมทำสคูลไอโสเรชั่น มีการควบคุมการเข้า-ออกจากบ้านไปโรงเรียนมีการคัดกรองตลอดระหว่างนักเรียนที่ไปบ้านและมาโรงเรียนเรื่องของสคูนแพส โรงเรียนจัดทำการเข้าออกการเดินทางของนักเรียนและบุคลกรทุกคน
ส่วนมาตรการการเปิดเรียนในภาคเรียน 1 ปี 65 นี้ เรื่องการจัดการเปิดเรียนของโรงเรียนประจำ ทางกระทรวงศึกษาเน้นให้ใช้มาตรการแซนบ็อกเซฟตี้โซนในโรงเรียนหรือมาตรการ 3s 1 สตรีมโซนจัดพื้นที่มีจุดคัดกรองให้เหมาะสม
สำหรับนักเรียนไปพักนอน 2 วอรันตี้โซนจัดกิจกรรมเล็กๆ ไม่ให้จัดกิจกรรมใหญ่คือ สมอบับเบิ้ลกิจกรรมใหญ่ก็ลดลง
3 เซฟตี้โซนจัดพื้นที่ปลอดเชื้อปลอดภัย
สำหรับโรงเรียนประจำกรณีที่มีครูหรือนักเรียนมีความเสี่ยงต่ำ สามารถจัดการเรียนการสอนได้ปกติ แต่ต้องมีระยะห่างไม่น้อยกว่า 1 เมตรในกรณีมีความเสี่ยงต่ำ
แต่ถ้ามีความเสี่ยงสูงให้จัดกิจกรรมได้ปฏิบัติงานได้แต่ต้องอยู่ในวอรันตี้โซนอยู่ในมาตรการแซนบ็อกเซฟตี้สคูลให้กักตัวเป็นเวลา5วันในระหว่างกักตัวก็มีการจัดการเรียนการสอนให้และติดตามและสังเกตอาการอีก5วัน ส่วนเรื่องกรณีบุคลากรหรือครู ติดเชื้อในโรงเรียนประจำให้แยกกักตัวที่โรงเรียนโรงเรียนจะมีสคูลไอโสเรชั่นปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณะสุข มีการแจ้งหน่วยสาธารณะสุขในพื้นที่มาจัดการและรักษาสถานศึกษายังสามารถจัดมีการเรียนการสอนได้ปกติ แต่เว้นระยะห่างเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2 เมตร
เน้นระบายอากาศ ห้องที่มีแอร์จะไม่เปิดแอร์และเปิดห้องให้โล่ง งดกิจกรรมกลุ่ม มีการสวมหน้ากากตลอดการจัดการเรียนกาาสอน และโรงเรียนต้องมีการทำความสะอาดทุกชั้นเรียนตามมาตรการของสาธารณสุขและโรงเรียนจะสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติอันนี้คือของโรงเรียนพักนอนหรือนักเรียนที่อยู่ประจำ
สำหรับโรงเรียนที่ไปกลับคือโรงเรียนทั่วๆไป ส่วนใหญ่จะไปกลับ คือครูหรือบุคลกรที่มีความเสี่ยงต่ำก็จะเปิดออนไซต์ได้ปกติ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการไทยเซฟไทยและ จัดเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่ า1 เมตร
สำหรับครู ที่มีความเสี่ยงสูง ให้แจ้งหน่วยสาธารณะสุขในพื้นที่และตรวจคัดกรองหาเชื้อทันทีโดย5-6วันแรกให้ตรวจครั้งที่1
และตรวจครั้งที่ 2 นับไปอีก5วัน คือวันที่10 หากผู้ติดเชื้อได้รับวัคซีนครบแล้ว ไม่มีอาการทางกระทรวงสาธารณะสุขก็ไม่แนะนำให้กักตัวตรวจatk ซ้ำ ในวันที่5และแยกกักตัว และสังเกตอาการคล้ายกับโรงเรียนประจำแต่ต้องเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า2เมตร กรณีครูหรือนักเรียนติดเชื้อ ต้องกักตัวที่บ้านเรียกว่าโฮมไอโคเรชั่น และ ประสานหน่วยรักษาให้จัดการรักษาต่อไปอันนี้เป็นคราวๆของมาตรการสาธารณะสุขโดยท่านปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้แล้ว
ซึ่งในการเปิดเทอม อยากฝากผู้บริหารทุกสังกัดเรื่องของการเปิดภาคเรียนก็อยากจะเน้นย้ำ6มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม 7 มาตรการเข้มของกระทรวงศึกษาธิการก็
สามารถเปิดภาคเรียนได้ตามปกติและสามารถลดการแพร่เชื้อในสถานศึกษาได้มากขึ้นและสามารถเปิดสถานศึกษาได้ปกติและขอให้กำลังใจคณะครูและผู้บริหารทุกสังกัดในจังหวัดปราจีนบุรีให้จัดการเรียนการสอนได้ราบรื่นและให้นักเรียนได้เรียนตามความต้องการของโรงเรียนและมีความสุขต่อไป ไพศาล กล่าว
ขณะที่หอประชุมองค์การบรืหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.)อ.เมืองราจีนบุรี ได้เปิดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19สำหรับเด็กและยาวชนอายุ5-11ปี ได้รับความสนใจพบผู้ปกครองตื่นตัวนำ ลูก หลานพามาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวนมาก
ด.ช. เตชินท์ ชมพูเชียง อายุ 11 ขวบมาจาก อ.เมืองปราจีนบุรี บอกฉีดแล้ว ก็ยังกลัว covid -19อยู่ มากับ ด.ญ.สุนันทา การเมี่ยง อายุ10ปี อยู่โรงเรียนเทศบาล2(วัดหลวงปรีชากูล ) บอก เปิดเรียนก็กลัวโควิด-19 มากับคุณแม่ ด.ช.ธีรวัฒน์ อายุ 5 ขวบ ชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนอนุบาลเมืองปราจีนบุรี มาจาก ต.ท่างาม อ.เมืองปราจีนบุรี เพิ่งไปเรียนได้1อาทิตย์แรก บอกไม่กลัว covid -19 มากับตายาย ๆเล่าให้ฟัง น้องนาย อายุ 10 ขวบ บอกว่ากลัว มาจากอ.บ้านสร้าง มากับแม่ มีน้องน้ำอิง อายุ 10 ขวบ ชู 2 นิ้วบอกสู้ๆ มากับคุณแม่
ด้านเด็กชายวรวิทย์ มหานาค อายุ 10 ขวบเรียนอยู่ชั้น ป. 4 โรงเรียนมารีย์ บอกว่าไม่กลัวโควิด-19 มาฉีดวัคซีนแล้ว มากับคุณแม่ เด็กชายวรวิทย์ กล่าว