ทุบหัวแหม่มรัสเซีย ลากเข้าป่า เหยื่อหนีรอดมาได้บาดเจ็บสาหัส ตำรวจเร่งหาสาเหตุ รอผลตรวจร่างกาย


เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 18 พ.ค.65 พ.ต.ท.ธีทัต ตรุณจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้ง มีหญิงชาวต่างชาติ ถูกทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดสาหัส เหตุบริเวณภายในซอย ชัยพรวิถี 41 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปทำการตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา
ที่เกิดเหตุ พบหญิงชาวต่างชาติ อยู่ในสภาพสะบักสะบอม สวมชุดออกกำลังกายสีน้ำเงินคาดดำ ไม่สวมรองเท้า และ มีเศษดินเปรอะเปื้อนเต็มเนื้อตัว สอบสวน ทราบชื่อต่อมา คือ นางสาว เอลลีน่า วายซูลโคว่า อายุ 38 ปี ( Miss ELENA YZULKOVA ) อยู่ในอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง มีอาการหวาดระแวงกลัวตลอดเวลา ตามร่างกายพบบาดแผลถลอก แผลแตกฉกรรจ์ด้านหลังท้ายทอย คิ้วขวาแตก ขอบตาทั้ง 2 ข้างปูดบวม เจ้าหน้าที่ต้องรีบปฐมพยาบาล แล้วรีบนำตัวส่ง รพ.บางละมุง นอกจากนี้ในร่างกายของผู้บาดเจ็บ ยังพบมือถือซัมซุง 1 เครื่อง และ กุญแจรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อมาสด้า 1 ดอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นาย สุรพล บุตรดา 36 ปี ชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ และ เป็นผู้พบหญิงชาวต่างชาติ เล่าว่า ก่อนจะพบแหม่มรัสเซียรายดังกล่าว ตนกำลังยืนทำภารกิจอยู่หน้าบ้าน จากนั้น แหม่มรัสเซีย ได้วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากป่า ภายในซอยที่เกิดเหตุ สภาพเลือดท่วมใบหน้า เนื้อตัวเลอะมอมแมม วิ่งเข้ามาหาตน พูดจาฟังไม่รู้เรื่อง ตนพยายามสอบถาม แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไร เนื่องจากสื่อสารพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบดังกล่าว
ด้านตำรวจ เปิดเผยเบื้องต้น จากการสอบสวนข้อมูลในเชิงลึก พบว่า แหม่มรัสเซีย รายดังกล่าว เป็นครูสอนภาษา อยู่โรงเรียนสอนภาษา ย่านซอยเขาตาโล ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 8-9 กม. โดยผู้เสียหายมักจะมาวิ่งออกกำลังรอบอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ในช่วงเย็นเป็นประจำ ส่วนสาเหตุของการถูกทำร้าย ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ประกอบกับผู้เสียหายยังให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และ พูดยังให้การไม่รู้เรื่อง
ทั้งนี้ได้ประสานกับทีมแพทย์ รพ.บางละมุง ตรวจร่างกายผู้เสียหายอย่างละเอียด รวมถึงเรื่อง ว่ามีร่องรอยของการถูกข่มขืนหรือไม่ ส่วนคนร้าย ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมีมากกว่า 1 คน ส่วนสาเหตุยังไม่ข้อสรุป เนื่องจากทรัพย์สินในตัวผู้เสียหายยังอยู่ครบ อย่างไรก็ตาม จะได้เร่งประชุมฝ่ายสืบสวน หาข้อมูลเพิ่มเติม และ ตรวจหาภาพกล้องวงจร เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป










